Thursday, November 03, 2005

Tutorial Multimedia เจ๋ง ๆ จาก Microsoft



ทำได้ดีจริง ๆ ด้านขวาก็เป็นคนนั่งพูด อธิบายไปเรื่อย ๆ ด้านซ้ายก็เป็น Presentation ที่เขากำลังอธิบายอยู่ มีอันอื่นอีกเพียบไปดูเอาเอง แต่ Net ต้องแรง ๆ หน่อย ของผมใช้ 512 K วิ่งเกือบ 100 % เลย
อยากรู้จังว่าเขาใช้อะไรทำ จะเอามาทำมั่ง เพราะเวลาเขียนบทความ หรือ Blog ต้องมานั่งแต่งแล้วแต่งอีกกว่าจะได้แต่ละหน้านานโคตร แบบนี้แค่มานั่งพูด ๆ แล้วก็บันทึกหน้าจอขึ้นเว็บให้ไปดูกันได้เลยไม่เสียเวลาในการทำ คนอ่านก็ไม่ต้องอ่านนั่งฟังเอาสบายทั้งสองฝ่าย

แบบว่าขี้เกียจพิมพ์ Blog แล้วเมื่อไหร่จะมี Blog แบบบันทึก Video ขึ้นไปเลย ชีวิตคงจะดีขึ้นเยอะ ฝาก Google ไปคิดหน่อย แล้วอย่าลืมทำ Search Engine ให้ Search เสียงได้ด้วยหละ ไม่งั้นเดี๋ยวหาไม่เจอ (ฮ่า ๆ ยากไปไหมเนี่ย!)

ไปดูอย่างอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ASP.NET ได้ที่ Beta ASP.NET

Wednesday, October 26, 2005

วีธีขยายพื้นที่ Hotmail จาก 2 MB ไปเป็น 250 MB

ใช้ Hotmail ได้พื้นที่แค่ 2 MB แล้วอึดอัด ชาวบ้านเขาได้เป็น GB กันแล้ว ทั้ง Yahoo และ Gmail ก็เลยหาวิธีเพิ่ม Size ของ Hotmail อย่างน้อยได้ 250 MB ก็ยังพอทน
อันดับแรกเข้าไปที่ Options>persional>My Profile
ให้เปลี่ยน Home location>Country/region เป็น United States
แล้วเลือกรัฐ เช่น ผมเลือก Georgia ใส่รหัสไปรณีย์ 31150 (ของ Atlanta)
คลิ๊ก Save แล้ว Continue
เข้าไปเช็คใน Language ให้แน่ใจว่าเป็น English
แล้ว Copy Link >> http://by17fd.bay17.hotmail.msn.com/cgi-bin/Accountclose << นี้ไปวางบน Address ของ Browser ตัวที่เปิด Hotmail อยู่แล้วกด Enter มันจะถามว่าต้องการปิด Account หรือเปล่า ก็ตอบตกลงไปเลย ไม่ต้องกลัวข้อมูลหาย เสร็จแล้วก็ไปหน้า Login ของ Hotmail ใหม่อีกรอบ แล้วทำการ login ใหม่ ก็จะมีคำถามว่าต้องการ re-activate account หรือเปล่า แล้ว Click อีกสองสามทีก็เสร็จ เข้าไปคราวนี้จะได้พื้นที่ 25 MB แล้วอีกสองสามอาทิตย์พื้นที่ก็จะเพิ่มเป็น 250 MB เอง

Monday, October 24, 2005

สภาพอากาศทั่วโลก ด้วย GoogleEarth

พยายามหาภาพถ่ายดาวเทียม สภาพอากาศ แบบ Real Time ของประเทศไทย ที่เจอก็มีสองสามอันที่ใช้ได้ อันแรกเป็นภาพล่าสุดจาก NECTEC เข้าไปดูได้ที่
http://tiwrm.hpcc.nectec.or.th/Tracking/Now/latest.jpg ซึ่งภาพจะมีการ Update ทุก ๆ ชั่วโมง แต่จะ Delay ไปประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง


อันที่สองถ้าอยากดูภาพเคลื่อนไหวต้องเข้าไปดูที่ Satellite Weather Image Archives แล้วก็เลือกเอาว่าจะ Play ย้อนหลังไปกี่วัน ถ้าเลือกย้อนหลังไปนานต้องรอโหลดนานหน่อย

อันสุดท้ายต้องลง Google Earth ก่อน แล้วไป Download สภาพอากาศ ซึ่งเขาทำ Overlay ไปดึงสภาพอากาศทั่วโลกมา แต่ตอนโหลดใช้เวลาบ้างพอสมควร




วันนี้แถวบ้านฝนตกหนักเอาการ แต่ก็ดีกว่าที่อเมริกาเยอะ ปีนี้สงสัยจะสาหัสเพราะ โดนเข้าไปสามดอกติด ๆ กันเลย



ที่ Thai Google Earth มีอะไรดี ๆ เยอะเหมือนกัน ไปดูกันเอาเอง

Tuesday, October 18, 2005

มาเขียน AJAX กันดีกว่า # 2 (Ajax.NET Library)

ต่อจากตอนที่แล้ว "มาเขียน AJAX กันดีกว่า # 1" ใครยังไม่อ่านไปอ่านมาก่อนก็ดี

มาว่ากันต่อกับ AJAX โดยวันนี้จะอธิบายการใช้งาน Ajax.NET Library ซึ่งสามารถ Download Ajax.dll ได้ที่ Ajax.NET - A free library for the Microsoft .NET Framework (Version ปัจจุบันคือ 5.7.22.2)

อันดับแรกให้ทำการสร้างโปรเจคใหม่ เป็น ASP.NET Web Application ในกลุ่ม Visual C# Projects ในตัวอย่างนี้ผมตั้ง ชื่อโปรเจคว่า AjaxDotNet






เสร็จแล้วไป Copy ไฟล์ Ajax.dll ที่เรา Download มา ไปเก็บไว้ใน Sub Directory bin ของ Project ของเรา แล้วทำการ Add Reference โดย Click ขวาที่ References แล้วเลือก Add Reference แล้วก็ไป Browse หาไฟล์ Ajax.dll



ใน Web.config ให้เพิ่ม Tag httpHandlers ตามนี้


ส่วนอื่น ๆ ให้คงไว้เหมือนเดิมนะครับ

ส่วนฝั่ง WebForm1.aspx.cs ให้เพิ่ม Code เข้าไปดังนี้

private void Page_Load(object sender, System.EventArgs e)
{
Ajax.Utility.RegisterTypeForAjax(typeof(WebForm1));
}

ตรง typeof(WebForm1) ให้ใส่ชื่อตามชื่อ Class ที่เราตั้ง

สมมุติว่าต้องการเขียน Function (Method) ในการบวกค่าให้ เพิ่ม Code เข้าไปอย่างนี้
[Ajax.AjaxMethod()]
public int ServerSideAdd(int firstNumber, int secondNumber)
{
return firstNumber + secondNumber;
}

Function นี้ทำงานง่าย ๆ คือ รับค่า Integer สองตัวเข้ามาบวกกันแล้ว Return กลับไป

คราวนี้เราก็มาเรียกใช้ Method ที่ฝั่ง Client กัน แต่ก่อนที่เราจะเรียกใช้ Function ที่เราเขียนได้นั้นต้อง Add JavaScript เข้าไปสองไฟล์นั่นก็คือ ajax/common.ashx และ ajax/AjaxDotNet.WebForm1,AjaxDotNet.ashx (ในตัวอย่างคือ บรรทัดที่ 11 และ 12)




Click ที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่


ผมเขียน Function JavaScript ไว้สองอันหลัก ๆ อันแรก คือ test1() ตัวนี้จะส่งตัวเลข 10 กับ 2 ไปบวกกันที่ฝั่ง Server แล้วนำค่าที่ Return มา Show เป็น Alert Message
ส่วน test2() ให้เอาค่าจาก TextBox1 กับ TextBox2 ไปบวกกัน แล้ว Return โดยการเรียก Function ServerSideAdd_CallBack() พร้อมส่งค่าผ่านตัวแปรที่ชื่อ response แล้วนำค่าที่ได้มาเติมเข้าไปใน TextBox3




และผลที่ได้ก็ออกมาแบบนี้ครับ




ถ้า Click ปุ่ม Test 1 จะไปเรียก Function test1() จะส่งค่า 10 กับ 2 ไปบวกันที่ Server แล้ว Alert Message Box แต่ถ้า Click ปุ่ม Excute จะไปเรียก test2() ก็จะส่งค่าจาก TextBox1 กับ TextBox2 ไปบวกกันที่ Server แล้วเอาผลลัพท์มาใส่ใน TextBox3 ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว

ตอนที่เรียกใช้ Function ที่ Server นั้นจะเห็นว่าง่ายมากดังตัวอย่างคือ
x = WebForm1.ServerSideAdd(10,2);

ง่ายกว่านี้มีอีกไหม?
ตอนนี้ยังครับ แต่ผมว่าอย่าให้ง่ายกว่านี้เลย เดี๋ยวโปรแกรมเมอร์ตกงาน

ของกิ๊กก๊อกแค่นี้ทำไมต้องส่งไปทำที่ Server ให้ JavaScript ทำก็ได้
อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างให้เข้าใจ Concept นะครับ เพราะปกติแล้วการคำนวณอะไรที่ไม่ซับซ้อนมากนัก JavaScript ก็ทำได้สบายอยู่แล้ว ถ้าใครอยากดูอะไรที่ยาก ๆ เอาไว้ตอนต่อไปครับ ถ้าผมไม่ขี้เกียจซะก่อน

ป.ล. ใครรู้วีธี Post HTML tag ลงใน Blogger ช่วยชี้แนะด้วยครับ มันไม่ยอมให้ผม Post HTML tag

Wednesday, October 12, 2005

มาเขียน AJAX กันดีกว่า # 1

AJAX คืออะไร?
AJAX ย่อมาจาก Asynchronous JavaScript and XML เป็นวิธีการเขียนที่ใช้ JavaScript ร่วมกับ XML เพื่อสื่อสารกับ Server

ทำไมต้องใช้ AJAX?
ถ้าใครเคยเขียน Web Application ที่ซับซ้อนหน่อยโดยเฉพาะงานที่ต้องมีการส่งค่าไปกลับระหวาง Server และ Client บ่อย ๆ จะเห็นว่าเราจะต้องให้ Page นั้น Reload ทุก ๆ ครั้งที่ต้องการติดต่อไปยัง Server แล้ว Server ก็จะส่งข้อมูลกลับมาใหม่ทั้งหมด ซึ่งบางครั้งข้อมูลที่ต้องการจาก Server มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ต้อง Load ข้อมูลมาใหม่ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นพวก Header หรือ Footer ซึ่งปกติจะเป็นสิ่งที่ Fix ไว้อยู่แล้ว แต่การ Reload แต่ละครั้งก็ต้องส่งข้อมูลพวกนี้มาใหม่ทุก ๆ รอบ เป็นผลให้ช้า และเปลือง Bandwidth ของ Network เป็นอย่างมาก
AJAX นั้นเข้ามาช่วยแก้จุดอ่อนตรงนี้ หลักการทำงานของ AJAX คือ จะมีการส่งและรับข้อมูลเฉพาะส่วนที่จำเป็นหรือต้องการเท่านั้น โดยใช้ JavaScript เป็นตัวกลางในการติดต่อกลับไปยัง Server ข้อมูลที่รับส่งนั้น จะอยู่ในรูปแบบของ XML (จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็น XML เสมอไป ขึ้นอยู่กับเรามากกว่า) ด้วยเหตุนี้ระบบจะทำงานเร็วขึ้น พร้อมทั้งลดปริมาณของข้อมูลที่วิ่งในเครือข่าย ช่วยลด Bandwidth ของ Network ไปในตัวอีกด้วย



ตอนนี้มีใครใช้ AJAX อยู่บ้าง ?
Google เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนา AJAX ซึ่งจะเห็นได้จาก Product เป็นจำนวนมากของ Google ที่ใช้ AJAX เช่น OrKut, Gmail, Google Groups, Google Suggess และ Google Maps เป็นต้น ส่วนค่ายอื่น ๆ นั้นเข้าใจว่าจะค่อย ๆ ทยอยตามมา เช่น Microsoft ก็อยู่ในช่วงทดลอง Hotmail ตัวใหม่ซึ่งตอนนี้ใช้ชื่อว่า Kahuna และ สามารถดู Review ได้ที่นี่

AJAX กับ ASP.NET
ในที่นี้ผมจะอธิบายการใช้ AJAX ร่วมกับ ASP.NET (C#) ซึ่งเป็นเครื่องมือตัวนึงที่ใช้ทำ Web Application ถ้าใครจะใช้ภาษาอื่นก็ตามใจนะครับ หรือจะใช้ HTML ดิบ ๆ เลยก็ได้ ขอให้ Page นั้น Return เป็น String ไปก็พอแล้ว

มาเริ่มกันเลยดีกว่า
อันดับแรก ให้ Add Web Form เข้าไปใน Project ตั้งชื่อว่า WebForm1.aspx แล้วเพิ่ม Code ตามนี้





(Click เพื่อดูรูปใหญ่)



ใน Header จะเห็นว่ามีการประกาศไฟล์ JavaScript ที่ชื่อ request.js เข้าไปด้วย ซึ่งภายในไฟล์ request.js มีรายละเอียดดังนี้

/--------------------------------------------------------------------------------------

/* XmlHttpRequest library */
/* Version 0.9.2.2, 6 May 2005, Adamv.com */
function _getXmlHttp()
{
try { return new XMLHttpRequest();}
catch (e2) {return null; }
}

function CachedResponse(response) {
this.readyState = ReadyState.Complete
this.status = HttpStatus.OK
this.responseText = response
}

ReadyState = {
Uninitialized: 0,
Loading: 1,
Loaded:2,
Interactive:3,
Complete: 4
}

HttpStatus = {
OK: 200,
NotFound: 404
}

function Request_from_cache(url, f_change) {
var result = this._cache[url];

if (result != null) {
var response = new CachedResponse(result)
f_change(response)
return true
}
else
return false
}

function Request_cached_get(url, f_change) {
if (!this.FromCache(url, f_change)){
var request = this
this.Get(url,
/* Cache results if request completed */
function(x){
if ((x.readyState==ReadyState.Complete)&&(x.status==HttpStatus.OK))
{request._cache[url]=x.responseText}
f_change(x)
},
"GET")
}
}

function Request_get(url, f_change, method) {
if (!this._get) return;

if (method == null) method="GET"
if (this._get.readyState != ReadyState.Uninitialized)
this._get.abort()

this._get.open(method, url, true);

if (f_change != null) {
var _get = this._get;
this._get.onreadystatechange = function(){f_change(_get);}
}
this._get.send(null);
}

function Request_get_no_cache(url, f_change, method){
var sep = (-1 < newurl =" url" __="" get =" Request_get" getnocache =" Request_get_no_cache" cachedget =" Request_cached_get" fromcache =" Request_from_cache" use =" function(){return" cancel =" function(){if" _cache =" new" _get =" _getXmlHttp();" _get ="=">

/--------------------------------------------------------------------------------------


ถ้าเราทำการ Run ไฟล์ WebForm1.aspx เฉย ๆ จะได้ Output เป็นแบบนี้



ถ้ากดปุ่ม Get Hello World ก็จะเป็นการเรียกฟังก์ชัน GetHello ด้วย event onclick="GetHello();" ซึ่งฟังก์ชั่น GetHello นี้จะทำงานอยู่ที่ฝั่ง Client แล้วไปเรียก Page ที่ชื่อ GetHelloWorld.aspx ซึ่งใน Page นี้มีรายละเอียดดังนี้
/--------------------------------------------------------------------------------------




/--------------------------------------------------------------------------------------

ตรง "=result" จะ Return ค่าของตัวแปรซึ่ง ประกาศไว้ในฝั่ง Codebehide ที่ชื่อ GetHelloWorld.aspx.cs ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

/--------------------------------------------------------------------------------------
using System;
using System.Collections;
using System.ComponentModel;
using System.Data;
using System.Drawing;
using System.Web;
using System.Web.SessionState;
using System.Web.UI;
using System.Web.UI.WebControls;
using System.Web.UI.HtmlControls;

namespace TestAJAX
{
public class GetHelloWorld : System.Web.UI.Page
{
protected string result = string.Empty;
private void Page_Load(object sender, System.EventArgs e)
{
result = "Hello World !!!";
}


#region Web Form Designer generated code
//..... ตรงนี้ไม่ต้องไปแก้ไข และไม่ต้องสนใจ เพราะมัน Auto Generate มาให้อยู่แล้ว
#endregion
}
}
/--------------------------------------------------------------------------------------

ซึ่งไฟล์นี้ไม่ทำอะไรมาก แค่ return "Hello World !!!" กลับไปเท่านั้น ถ้าคุณเรียก Page GetHelloWorld.aspx แล้ว View Source ดูก็จะเห็นแค่

Hello World !!!

หลังจาก Click ปุ่ม Get Hello World จะได้ผลดังนี้



มันทำงานยังไง
หลักการทำงานของมันก็คือ เมื่อเรา Load Page ที่ชื่อ WebForm1.aspx มา และ Click ที่ปุ่ม Get Hello World ฟังก์ชั้น JavaScript ที่ชื่อ GetHello() ก็จะไปเรียกเพจที่ชื่อ GetHelloWorld.aspx แล้วได้ String เป็น Output มา จากนั้นก็มา Set ค่าของ Textbox ให้เปลี่ยนไปตาม Output ที่ได้มา จะเห็นว่า Page WebForm1.aspx นั้นไม่ต้อง Reload ใหม่ เหมือนการเขียนทั่ว ๆ ไป

ทำไมมันยากจัง ง่าย ๆ กว่านี้มีหรือเปล่า
คำตอบคือ มีครับ ถ้าคุณเคยเคยเขียน Web Application แบบธรรมดา จะเห็นว่าการเขียนแบบนี้ต้องเพิ่มภาระให้เราเป็นอย่างมาก มิหนำซ้ำการเขียน Code กับ JavaScript นั้นไม่สามารถ Debug ได้ง่าย ๆ อีกด้วย แต่ถ้าคุณขี้เกียจเขียนทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณสามารถใช้ AJAX Libary for The Microsoft .NET Framework ซึ่งเป็นของฟรี สามารถ Download ได้ที่ Ajax.NET มา Add เข้าไปในโปรเจคของคุณ แล้วค่อยเรียกใช้ ก็ได้เหมือนกัน

การใช้ Ajax.NET Libary รอติดตามตอนต่อไปครับ วันนี้เพียงแต่ต้องการให้เข้าใจ Concept ว่า มันทำงานยังไงเพียงแค่นั้น


อ้างอิง
AJAX Links at OpenAJAX
AJAX at TheCodeProject

Tuesday, October 11, 2005

DHTML & JavaScript เจ๋ง ๆ


Dynamic Web Coding เว็บนี้มี ตัวอย่าง พร้อม Source Code ของ DHTML และ JavaScript เด็ด ๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การ ทำ Slide-Out Menus, Pupup Image, การเล่นกับ Layer, และ การทำงานกับ IFrame

วิธีการต่าง ๆ ที่เว็บทั่ว ๆ ไปเขาใช้กันส่วนใหญ่มีให้ดูหมดเลย

Monday, October 10, 2005

The Battle for Wesnoth 1.0 เกมบน Linux


ลอง Download เกม Battle for Wesnoth 1.0 มาเล่นดู ซึ่งเป็นเกมที่พัฒนาแบบ Opensource ภายใต้ลิขสิทธิ์แบบ GPL นับว่าเป็นเกมที่ดีใช้ได้ ถึงแม้จะยังห่างจากเกมแบบ Proprietary พอสมควร แต่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเกมที่จะเล่นบน Linux อีกตัว

มีเกมอื่น ๆ ที่เล่นบน Linux ได้อีกเยอะเหมือนกัน ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ Linux Gamers

Sunday, October 09, 2005

Google Earth เปิดโลกการเรียนรู้

ผมคงไม่มาพูดแนะนำ Google Earth หรอกครับเพราะ มันเป็น Talk of the World ไปแล้ว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคงไม่ใช่แค่หลังคาบ้านของตัวเอง, บริเวณตึก World Trade Center (ตอนนี้รู้สึกเขาจะเรียกว่า Ground Zero ไปแล้ว), สนามบิน JFK, LA, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ออสเตรเรีย ฯลฯ

และแน่นอนเมืองไทยผมดูเกือบทุกซอกทุกมุมทำให้เข้าใจภูมิศาสตร์ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง ไม่เหมือนตอนที่เรียนสมัยมัธยม มันนึกภาพไม่ออก ถ้าสามารถบรรจุ Google Earth ลงไปในวิชา โลกของเรา, ประเทศของเรา หรือวิชาภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ผมว่าสุดยอดเลย



รูปแรกเป็นรูปภูกระดึงจะเห็นว่ามันเป็นรูปหัวใจเหมือนที่เขาว่าจริง ๆ หลาย ๆ คนบอกผมว่าได้พบคนรักที่ภูกระดึง แต่บางคนก็บอกว่าขึ้นไปเลิกกันก็บนภูกระดึงนี่แหละ ไม่รู้มันเกี่ยวกับรูปหัวใจนี้หรือเปล่า


แต่ที่น่าสนใจก็คือเมื่อผมกดปุ่ม Tilt Down ลงปรากฏว่ามันเห็นส่วนสูงต่ำของแผ่นดินด้วย นั่นหมายความว่า Google มันเก็บความสูงไว้ด้วยหรือนี่ จะเห็นว่ารอบ ๆ ภูกระดึงนั้นเป็นหน้าผาทั้งหมด แต่ส่วนบนจะแบนเป็นพื้นราบ ทำให้ภูกระดึงเป็นภูเขาที่ไม่มียอด เหมือนพื้นราบมันโดนยกขึ้นไปเฉย ๆ งั้นแหละ (อันนี้มีเหตุผลอธิบาย จำได้ตั้งแต่ตอนเรียน ม. ๓ อาจารย์ท่านเคยอธิบายเหตุผลไว้แต่ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวยาว)


ยิ่งพอปรับ Tilt Down จดสุดจะเห็นว่าภูกระดึงนั้น มันสูงขึ้นไปแล้วจู่ ๆ มันก็เรียบ อยู่ด้านบน ถ้าใครเคยขึ้นภูกระดึง หลังจากผ่าน ซำแฮก และซำต่าง ๆ ไปแล้ว พอขึ้นไปถึงยอด จะตะลึง ว่าเราปีนเขาขึ้นมาเกือบทั้งวัน ขึ้นมาเรื่อย ๆ พอขึ้นมา จู่ ๆ ภูเขาก็หายไปกลายเป็นพื้นราบเฉยเลย ตรงที่ขึ้นไปถึงนั้นเขาเรียกว่า หลังแป และพอมองลงมาข้างล่าง โอ้โห.... สุดบรรยาย วิวข้างล่างสวยมาก ยิ่งขึ้นไปปลายฝน ต้นหนาว จะเห็นละอองเมฆ ลอยอยู่ต่ำกว่าเท้าเราใกล้แค่เอื้อม แล้วลมก็พัดเมฆหมอกมากระทบหน้าผาแล้วฟุ้งมากระทบหน้าเรา ไม่อยากบรรยาย สุดยอดจริง ๆ ปีนขึ้นมาทั้งวัน หายเหนื่อยเลย


บ้านเพื่อนผมอยู่อำเภอภูเวียง ผมพึ่งรู้ว่าที่จริงแล้ว อำเภอนี้มันตั้งอยู่กลางภูเขา ซึ่งร้อมรอบอำเภอ มีทางเข้าออกอำเภอได้ทางเดียว ซึ่งเป็นทางเดียวกับทางที่น้ำไหลออกจากภูเวียง นอกนั้นเข้าออกไม่ได้เพราะภูเขาล้อมไว้หมด แต่ยังมีอีกอันที่สงสัยคือ ทำไมไดโนเสาร์มันถึงมาอยู่ข้างในนี้ด้วย และจากรูปนี้ก็ทำให้เห็จความฉลาดของคนสมัยก่อน เพราะตอนนั้นเขาไม่มีเครื่องบิน หรือดาวเทียมดู เขาก็ยังรู้ว่าภูเขามันเป็นวงล้อมอยู่ จึงตั้งชื่อว่า ภูเวียง

แต่ผมก็มีอีกความคิดหนึ่งก็คือถ้าเป็นไปได้ ผมจะอพยพคนออกจากข้างในให้หมด เพราะอันตรายมากหากฝนตกหนักติดต่อกัน เพราะจะทำให้น้ำระบายจากข้างในไม่ทัน เดี่ยวก็เดือดร้อนกันใหญ่ และพออพยพคนออกแล้วผมจะสร้างเขื่อนเล็ก ๆ ปิดทางน้ำออก ก็จะได้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ไว้สำหรับภาคอีสานไว้ใช้เวลาหน้าแล้งอีกเป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว และจะเป็นแหล่งน้ำระดับที่สูง ทำให้สามารถจ่ายไปได้ไกล ๆ อีกด้วย


ส่วนอันนี้เขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้เข้าใจว่าทำไมเขามาสร้างเขื่อนตรงนี้ เพราะมันมีแนวภูเขาที่เป็นเส้น ๆ กั้นน้ำไว้ให้นี้เอง ไอ้เส้นภูเขาเล็ก ๆ นี้ผมลงตามไปดูมันข้ามน้ำโขงไปประเทศลาว และลงมาข้างล่าง ผ่านภูเขียว และมาจรดที่เขาใหญ่ด้านล่างนี้เอง ไอ้เส้นนี้มันแปลกมาก


ส่วนอันนี้เป็นบริเวณ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ของ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ซึ่งใช้เก็บพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระอรหันตสาวก ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระสิวลี และองค์อื่น ๆ อีกเพียบ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ. หนองพอก จ. ร้อยเอ็ด ใช้เงินสร้างไปหลายพันล้านบาทแล้ว ข้างในสวยมาก นึกว่าขึ้นไปบนสวรรค์ ใครไม่เคยไป ลองหาโอกาสไปซักครั้งในชีวิต สาเหตุที่มาสร้างตรงนี้เพราะสมัยก่อน หลวงปู่ศรี ท่านจาริก มาธุดงค์อยู่แถวนี้ ซึ่งเป็นป่าเป็นเขา จนสุดท้ายได้สร้างวัดขึ้นที่นี่ และสร้างรั้วร้อมภูเขาทั้งลูก ดังที่เห็น สุดยอดจริง ๆ ไม่งั้นป่านนี้ชาวบ้านคงรุกล้ำถางเข้าไปจนป่าไม้ไม่เหลือแล้วมั้ง ทำให้พระรุ่นลูก รุ่นหลาน ยังมีป่าพอเหลือให้หลีกเร้นจากสังคม เข้าไปภาวนาอยู่ในป่าหาความสงบ หาทางพ้นทุกข์ ตามรอยพระบรมศาสดา ซึ่งป่าแถบนี้ยังสมบูรณ์อยู่มาก


ส่วนภูเขาลูกตรงกันข้ามชื่อว่า ภูจ้อก้อ ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ท่านมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่เป็นเวลานานจนท่านมรณภาพ สุดท้ายหลังเผาศพท่าน พบว่ากระดูกของท่านก็กลายเป็นธาตุ เหมือนกันกับพระอรหันต์ทั้งหลาย นี่เป็นความอัศจรรย์ของดินแดนแถบนี้


ส่วนรูปสุดท้ายนี้จะเห็นว่าป่าไม้เมืองไทยนั้นเหลือน้อยจริง ๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่เห็นยังเขียว ๆ อยู่ ก็มีเพียง เขาใหญ่ เขาเขียว ภูเขียว แนวชายแดนภาคตะวันตก ภาคเหนือตามภูเขา และเขตแถว ๆ ภูพานอีกนิดหน่อย เท่านั้นเอง

และถ้าดูรูปนี้จะเห็นว่าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเดินธุดงค์สมบุกสมบันจริง ๆ คือผมเข้าใจว่าทั้งหมดที่เห็นในรูปนี้ท่านเดินด้วยเท้าเปล่ามาหมดแล้ว ซึ่งสมัยเมื่อประมาณร้อยปีที่แล้วส่วนใหญ่ยังเป็นป่าเกือบทั้งหมด ท่านเดินจากอุบล ข้ามไปฝั่งลาวขึ้นไปทางเหนือ เข้าไปเชียงใหม่ ข้ามไปพม่า เข้ามาอุดรธานี หนองคาย สกลนคร แล้วลงมาอุบล แล้วเดินเข้ากรุงเทพฯ แล้วก็ไปเขาใหญ่ นครนายก ขึ้นไปเชียงใหม่ ฯลฯ แค่เรื่องเดินธุดงค์ ก็ยังขนาดนี้แล้ว ยิ่งเรื่องอื่น ๆ ยิ่งน่านับถือท่านมาก ๆ

จะเห็น่า Google Earth นั้นมีประโยชน์มาก ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง ตั้งแต่ความรู้ทั่วไป โลกของเรา ประเทศของเรา แม้กระทั่งวางแผนว่าจะไปนอนวัดป่าภาวนาซักอาทิตย์ ก็ยังสามารถตรวจสอบได้ล่วงหน้าว่า ป่าแค่ไหน มันป่าสมที่ใจอยากไปหรือเปล่า

ลองเล่น Ubuntu 5.10

ลอง Download Linux Ubuntu 5.10 มาลงดูเมื่อวาน ผมว่ามันง่ายดีแฮะ ผมว่าตัวนี้ดูเข้าที่ที่สุดเพราะตัวเล็ก ไม่เสียเวลา Download มาก สำหรับใช้งานพื่นฐานทั่ว ๆ แล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมใช้ได้เลย

Saturday, October 08, 2005

Mambo eZine จัดหน้าแรกของเว็บให้ดูดี

Mambo eZine คือ Tool สำหรับ Mambo ที่ใช้จัดการหน้าแรกของเว็บให้สวย และง่ายในการจัดการ ที่ www.carefor.org เขาเขียนไว้ดีแล้ว ไปอ่านเอาเอง

ClockLink นาฬิกาสวย ๆ ประดับเว็บ



เห็นสวยดีครับก็เลยเอามาฝาก เผื่อใครสนใจ มีแบบอื่น ๆ อีกเพียบเลยนะครับ เข้าไปดูได้ที่ www.clocklink.com ครับ

Thursday, October 06, 2005

สงครามระหว่าง Flash Memory กับ Hard Disk Drive

สมัยก่อน Flash Memory กับ Hard Drive นั้นต่างมีอาณาจักรของตัวเอง ที่แยกจากอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เพราะต่างฝ่ายต่างมีข้อดีข้อเสีย ฝ่าย Hard Drive นั้น มีขนาดใหญ่ ใช้พลังงานเยอะ มีความจุสูง ราคาต่อความจุต่ำ ไม่มีข้อจำกัดในการเขียนซ้ำ มีปัญหากับการสั่นสะเทือน ส่วนทาง Flash Memory นั้น มีขนาดเล็ก ความจุน้อย ราคาต่อความจุสูง มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนครั้งในการเขียนซ้ำ ไม่มีปัญหากับการสั่นสะเทือน แต่เมื่อเวลาผ่านไปต่างฝ่ายต่างก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตน ทางฝั่ง HDD ก็พยายามทำให้ขนาดเล็กลง ใช้พลังงานน้อยลง เพิ่มความทนทาน ส่วนฝั่ง Flash ก็เพิ่มความจุ เพิ่มความเร็วในการเขียน การอ่าน และเพิ่มจำนวนครั้งในการเขียนซ้ำ เป็นภาพที่ทั้งสองฝ่ายกำลังวิ่งเข้าชนกัน

จุดแรกที่สองเทคโนโลยีนี้วิ่งเข้ามาประสานงากันก็คือ Compact Flash ซึ่งถือว่าฝ่าย HDD ขนาด 1 นิ้ว เป็นฝ่ายรุกเข้าไป เพราะ Compact Flash นั้นเป็นของ Flash ตั้งแต่แรก (ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว) ถึงแม้ผลจะไม่ออกมาในลักษณะแพ้ชนะแบบตายกันไปข้างนึง แต่ก็ดูเหมือนว่าฝั่ง HDD มีภาษีดีกว่า สิ่งที่ทำให้ HDD ได้เปรียบมาก ๆ ก็คือ ราคา เพราะในความจุที่เท่ากันนั้น ราคาของ HDD จะราคาถูกกว่าอยู่ประมาณ 3 - 5 เท่าตัว

แต่ถ้าเราถอยห่างออกจากแนวรบ ก็จะเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายนั้นยังมีอาณาจักรส่วนตัวที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ และมีความเข้มแข็ง ซึ่งอีกฝ่ายยังไม่สามารถเข้าไปแตะต้องได้ ซึ่งทาง HDD ก็จะเป็น HDD สำหรับเครื่อ Server, PC, Notebook เป็นต้น (ถ้าคุณคิดจะเอา Flash ไปทำ Database Server คงต้องจ่ายเงินหลายล้าน) ส่วนฝั่ง Flash ก็ได้แก่อุปกรณ์ที่เล็กมาก ๆ เช่น SD, XD, Memory Stick เป็นต้น จะเห็นว่า ถ้ามองดูภาพใหญ่แล้ว ส่วนที่เป็นแนวรบนั้นถือว่าเล็กมาก แต่มันยังไม่หยุดแค่นั้น ฝั่ง HDD ดูเหมือนจะได้ใจ จึงขยายแนวรบเข้าไปอีกชั้นโดยออกผลิตภัณฑ์ HDD ขนาด 0.85 นิ้ว แต่การรุกครั้งนี้ไม่หมูเหมือนคราวแรกเสียแล้ว เพราะขนาดที่เล็กอย่างนั้น ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตนั้นสูงขึ้นมาก ทำให้ราคาไม่ต่างกันกับ Flash และเมื่อราคาเท่ากัน ความจุเท่ากัน ลูกค้าก็ต้องเลือก Flash เป็นธรรมดา

วันนี้ดูเหมือนว่า Flash จะไม่ยอมถูกเป็นฝ่ายรุกอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะ Chang Gyu Hwang ซึ่งเป็น CEO ของ Samsung's semi-conductor ผู้ผลิต Flash Memory อันดับหนึ่งของโลก ออกมาประกาศว่า Flash นั้นจะสามารถทะลุกำแพง 100 GB ได้ภายใน 2 - 3 ปี และเมื่อถึงจุดนั้น Flash ก็จะสามารถเข้าไปอยู่ใน PC หรือ Notebook ได้อย่างสบาย Hwang นั้นถึงกับพูดว่า จุดจบของ HDD นั้นใกล้มาถึงแล้ว (อะไรจะขู่กันขนาดนั้น นี่ไม่รู้ว่าขู่ Samsung HDD ของตัวเองด้วยหรือเปล่า)

ส่วน Bill Watkins ซึ่ง CEO ของ Seagate ผู้ผลิต HDD อันดับหนึ่งของโลก (เช่นกัน) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เขายอมรับว่า Flash Memory นั้นกำลังบูม แต่ไม่คิดว่า HDD จะถึงจุดจบในเร็ว ๆ นี้ ทั้ง Flash Memory และ HDD นั้น คงจะอยู่ร่วมกันไปอีกนาน อุปกรณ์ Flash Memory นั้น เหมาะสำหรับอะไรที่เล็ก ๆ ไม่ต้องการความเร็ว และต้องการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด Flash Memory นั้นไม่สามารถเข้าไปแตะต้องในงานที่ต้องใช้ความจุสูง ๆ และต้องการความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลมาก ๆ เช่น งานพวก Streaming-Video และในขณะนี้ก็กำลังขยายตลาดไปในส่วนของรถยนต์ โดย HDD นั้นจะเป็นแหล่งเก็บข้อมูลของรถ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูล Audio, Video ซึ่งปัจจุบันอยู่ในรูปของ DVD, CD ข้อมูลแผนที่สำหรับใช้ร่วมกับ GPS หรือแม้กระทั่งบันทึกข้อมูลของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถว่าการทำงานเป็นไงบ้าง ซึ่งจะช่วยในการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงรถได้เป็นอย่างดี

ส่วนผมไม่มีใครมาสัมภาษณ์ แต่ขอออกความเห็นหน่อย ที่ Hwang บอกว่า Flash จะมีความจุ 100 GB ภายใน 2 - 3 ปี ป่านนั้น HDD เขาไปถึงกาแล็กซี่ไหนกันแล้ว และถ้าออกมาแล้วราคาจะเท่าไหร่ ถ้าแพงคนเขาก็ไม่ซื้ออยู่ดี อย่าลืมว่าผู้บริโภคนั้นเป็นประเภท กูเอาถูกไว้ก่อน ถ้าราคาเท่ากันค่อยมาดูอย่างอื่นทีหลัง และก็มีตลาดอีกเป็นจำนวนมากที่ HDD เขาได้เปรียบ เช่นพวกเครื่อเล่นเกม เครื่องเล่น DVD เครื่อถ่ายวีดีโอ โทรทัศน์ เครื่องเสียง เครื่องมือวัดในแล็ป เครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ เป็นต้น เพราะของเหล่านี้ ในอนาคตจะสามารถเชื่อต่อเข้ากับระบบ Internet ทั้งหมด และจะมีการ Load ข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ มาใช้ มาฟัง มาดู หรือมีการบันทึกค่า ต่าง ๆ ลงเครื่องแล้วส่งข้อมูลไปยัง Server ที่สำคัญของพวกนี้ก็ไม่ซีเรียสเรื่องขนาดและพลังงานมากนัก

ส่วนทาง Flash นั้นก็มีจุดแข็งมาก ๆ เรื่องขนาดที่เล็กแต่ความจุก็เพิ่มไปเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างพวก โทรศัทพ์ หรือ Pocket PC นั้น ยังไง ๆ Flash ก็ได้เปรียบอยู่มาก เพราะถ้าจับ HDD ยัดลงไปคงทำให้ เครื่องใหญ่เบ้อเร่อบ้าร่า แถมยังเปลืองแบตเตอร์รี่อีกด้วย และอุปกรณ์เล็ก ๆ บางอย่างก็ไม่ได้ต้องการความจุเป็น 100 GB ขนาดนั้น แค่ 1 GB ก็เหลือเฟือแล้วสำหรับหลาย ๆ คน และในอนาคตผมว่า ขนาดมันยิ่งจะเล็กลงไปกว่านี้อีก

ถ้าให้ผมฟันธง (เอ๊ะทำไมช่วงนี้ติดคำนี้) ผมว่าภายใน 5 ปีนี้ ทั้ง Flash Memory และ Hard Disk Drive ไม่มีใครตายหรอกครับ คนที่อาการโคม่าและจะตายก่อนเพื่อนก็คือ ฟิล์มถ่ายรูปครับ เพราะตอนนี้ไม่มีใครซื้อกล้องธรรมดากันแล้ว ผมว่าอีกภายใน 5 ปีคุณจะไม่เห็นคนถ่ายรูปด้วยกล้องแบบฟิล์มอีกแล้ว ตัวต่อมาที่จะตามลงหลุมไปก็คือ พวกเทป ครับ โดยเฉพาะวีดีโอเทป และเทปเพลง จะตาม ฟิล์มไปติด ๆ ส่วนเทปที่อยู่ในรูปของเครื่องถ่ายวีดีโอต่าง ๆ อีกไม่นานครับ คิวต่อ ๆ กันเลย และตัวสุดท้าย ผมว่าก็คือพวก CD, DVD นี่แหละครับ อย่าหาว่าผมมั่วนะครับ ลองคิดดู ในอนาคตถ้าคุณสามารถต่อเข้าอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยความเร็วสูง ข้อมูลทุกอย่างคุณสามารถดาวน์โหลดมาจากอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังเป็นเพลง หรืออื่น ๆ แล้วคุณจะลำบากเดินไปซื้อแผ่นจากที่ร้านทำไมละครับ

สรุป สงครามครั้งนี้ค่อนข้างแปลกเพราะ Flash Memory รบกับ Hard Disk Drive แต่ปรากฏว่าคนอื่นตายเป็นเบือ สองคนนี้รวยเอ๊ารวยเอา เป็นสงครามที่แปลกมากเลยครับ

Wednesday, October 05, 2005

ATI X1000 Graphics Family

ทาง ATI ออกการ์ดจอรุ่นใหม่ในตระกูล X1000 ดูท่าจะแพรง (แพง + แรง) ดูไปงั้นแหละ คงไม่ซื้อหรอก

จริง ๆ แล้วไม่ได้ติดตามเรื่องการ์ดจอมานาน จำได้ว่าล่าสุดที่สนใจวิเคราะห์ทดสอบ ทดลองต่าง ๆ นา ๆ ตอนนั้นซื้อ GeForce 2 MX RAM 32 MB ตอนนั้นถือว่าหรูมาก หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องการ์ดจออีกเลย เวลาซื้อคอมพิวเตอร์ก็เอาแค่ธรรมดามันก็เพียงพอแล้วสำหรับใช้งานทั่วไป เป็นผลทำให้ไม่สนใจอีกเลย เวลาผ่านไปประมาณ 5 - 6 ปี ทั้ง ๆ ที่อยู่ในวงคอมพิวเตอร์พอควร แต่ถ้าใครมาถามเรื่องการ์ดจอ ตอนนี้ส่ายหัวอย่างเดียว ไม่รู้เรื่อง มันมีรุ่นอะไรบ้างก็ไม่รู้เต็มไปหมด ทั้ง NVIDIA ทั้ง ATI (เมื่อก่อน ATI ยังไม่ดังด้วยซ้ำ) รู้แต่ว่ามันออกใหม่ ข้อมูลเรื่องการ์ดจอในหัวมันว่างเปล่าจริง ๆ

รายละเอียดดูที่ Radeon X1000 Series

Dell offers an open-source PC

ถ้าใครเคยใช้เครื่องของ Dell จะพบว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรมา Dell เขาจะขายเครื่องพร้อมกับ Windows โดยลงมาให้เรียบร้อย ยกเว้น Server ซึ่งอาจจะเป็น Linux แล้วแต่เราเลือก แต่ตอนนี้ Dell เขาเริ่มขายเครื่องเปล่า ๆ สำหรับคนที่ต้องการใช้ Opensource เช่น FreeDos หรือ Linux แทน Windows ซึ่งทำให้ราคาถูกลงมานิดหน่อย เป็นผลดีสำหรับคนที่อยากใช้ Opensource แต่ต้องการใช้เครื่องของ Dell เพราะ Dell เขามีข้อดีมาก ๆ เรื่องบริการหลังการขาย ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เครื่องของ Dell ลง Linux ไม่ได้นะครับ มันลงได้แต่ว่าเราจะต้องเสียค่า Windows ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้

Ref: ZDNetAsia

FlexWiki Opensource Wiki Software (C#)

เผอิญว่ามีความคิดที่จะใช้โปรแกรมจำพวก Wiki มาทำเอกสารออนไลน์ ก็เลยมอบหมายให้สมุนเอก Google ไปจัดการ แล้วมันก็รายงานมาเป็นล้านเลย ด้วยเวลา 0.27 วินาที ไม่รู้โม้หรือเปล่า และสุดท้ายก็เลือกได้ FlexWiki ซึ่งเป็น Opensource เขียนด้วย C# ลองลงดูก็ OK ใช้ได้ดีทีเดียว แต่หน้าตามันไม่สวยเหมือนของ ทางฝั่ง Wikimedia Foundation แต่ก็ไม่เป็นไรอยากลองเล่นฝั่ง .NET ดูบ้าง แต่สิ่งแรกที่จะทำก็คือ จัดการกับหน้าตามันก่อนเป็นอันดับแรก แบบว่าทำใจรับไม่ค่อยได้ ไม่รู้ทำกันอีท่าไหนถึงได้หน้าแต่แบบนี้ออกมา เฮ้อ.....

ส่วนฝั่งนั้น ดูซิ Wikipedia Wikinews Wikibooks Wiktionary Wikiquote Wikispecies Wiki Commons Wikisource เอากันเข้าไป


ถ้าใครยังไม่รู้ว่า Wiki คืออะไร เข้าไปดูคำอธิบายได้ที่ What is Wiki? ถ้าให้แปลง่าย ๆ ก็คงจะเป็น เอกสารในรูปแบบของเว็บที่ทุก ๆ คนสามารถเข้าไปช่วยกันเขียน ช่วยกันอ่าน ได้อย่างง่าย ๆ คือไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเป็นก็ทำได้

แอ่น แอ๊น.... และแล้วก็เข้าทางโปรแกรมเมอร์ คือผลักภาระไปให้คนอื่นเขียน เพราะงานด้านเอกสารเป็นงานที่โปรแกรมเมอร์เบื่อที่สุด (อย่างน้อยที่สุดทุก ๆ คนที่ผมรู้จักก็เป็นแบบนี้) ใครมาชอบบ่นว่าทำไมเอกสารไม่เสร็จซักที ก็เอาไปเขียนเองเลยไป

Tuesday, October 04, 2005

.NET Ebooks

ที่ EastASP เขามี Ebooks เกี่ยวกับ .NET ให้ Download กันครับ ผมลองเข้าไป Download มาลองเปิดดูเทียบกับหนังสือที่ผมมีซึ่งส่วนใหญ่ราคาประมาณ 2,000 - 3,000 บาท ต่อเล่ม ปรากฏว่าเหมือนกันเด๊ะ เผลอ ๆ Edition ใหม่กว่าด้วย และเท่าที่เปิดดู มีหนังสือทุก ๆ เล่มของ .NET เลย มีทั้งตระกูลทั้งโคตรเลยก็ว่าได้ เยอะมาก ๆ ผมพยายามหาอ่านดูข้อมูลเรื่อง ลิขสิทธิ์ ก็ไม่เห็น พยายามจะเข้าไปอ่าน FAQ กับ Webboard ก็ดันเป็นภาษาจีนอีก ใครอ่านภาษาจีนออกช่วยบอกหน่อยนะครับ

สิ่งที่ผมสังสัยและกลัวก็คือ มันเป็นเว็บเถื่อนหรือเปล่า เพราะดูแล้วเขาทำเหมือนเว็บมาตรฐานอย่างดีเลยหละ ถ้าไม่ใช่เว็บเถื่อนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ เพราะช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งความรู้ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นเว็บเถื่อนคงสร้างความเดือดร้อนให้ ผู้แต่ง สำนักพิมพ์ และร้านขายหนังสือเป็นอย่างมาก

สำหรับผมแล้วเจตนาที่เข้าไปดูรายละเอียดหนังสือก็เพื่อ ดูว่าเนื้อหาเป็นยังไงบ้าง คุ้มค่าหรือเปล่า เพราะเคยสั่งซื้อหนังสือเล่มหนึ่งมาราคาประมาณ 4,000 บาท แต่เนื้อหาข้างในไม่ได้เรื่องเลย เสียดายเงินมาก ๆ แล้วถ้าเล่มไหนผมดูแล้วเนื้อหาดีน่าอ่าน ยังไงผมก็คงซื้ออยู่เหมือนเดิม เพราะผมถือเป็นการตอบแทนคนเขียนที่เขาอุตส่าห์เสียเวลามานั่งแต่งหนังสือที่ดี ๆ ให้เราอ่าน เพราะการทำหนังสือแต่ละเล่มนั้นใคร ๆ ก็คงพอรู้ว่ามันยากแค่ไหน

เพราะฉะนั้นสำหรับผมเว็บนี้เปรียบเสมือนโชว์รูมของหนังสือ .NET ที่ผมจะเดินเข้าไปเปิด ๆ ดู คร่าว ๆ ว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร ถ้าเล่มไหนดีก็พร้อมที่จะซื้อ และจ่ายเงินด้วยความเต็มใจ ถ้าเล่มไหนไม่ได้เรื่องก็จะวางไว้บนชั้นของมันตามเดิม

EastASP Home Page

แปรงทำความสะอาดหน้าจอสำหรับเครื่อง Notebook



ผมเป็นคนที่ให้ความสนใจกับหน้าจอคอมพิวเตอร์มาก ๆ คือไม่ค่อยชอบให้มันมีฝุ่นหรือมีคราบสกปรกติดที่หน้าจอ เวลาใช้งานถ้ามีคราบหรือฝุ่นติดอยู่หน้าจอผมจะรู้สึกว่าวิสัยทัศน์ในการใช้เครื่องจะไม่ดี กลัวขับคอมพิวเตอร์ตกทางยังไงชอบกล ถ้าใช้เครื่อง Desktop ที่จอเป็นแบบ CRT นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเวลาหน้าจอสกปรก ผมก็หาผ้าสะอาดมาเช็ดได้เลย แต่ถ้าเป็นเครื่อง Notebook หรือ จอ LCD นี่ผมไม่ค่อยอยากใช้ผ้าเช็ดเท่าไหร่เพราะมันทำให้หน้าจอเป็นรอยง่ายมาก ถ้าจะซื้อแผ่นกันรอยขีดข่วนเหมือนของพวก Pocket PC มาใช้ ราคาก็เป็นพัน ผมพยายามหาแปรงมาใช้แต่แปรงส่วนใหญ่ขนก็แข็งมาก สุดท้ายผมก็นึกถึงเจ้านี่ ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไรนะครับ เป็นแปรงที่ผู้หญิง (ส่วนใหญ่) เขาใช้ปัดหน้า เจ้าแปรงนี้มันนุ่มมาก ๆ ขนาดเอาลองปัดหน้า หรือปัดหลังมือดูยังรู้สึกว่ามันนุ่มมาก ๆ ผมมั่นใจว่าไม่มีแปรงแบบไหนที่นุ่มกว่านี้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นใช้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้สบายหายห่วง




ตอนผมไปซื้อผมยืนลองอยู่หลายอัน เพราะมันมีหลากหลายรูปทรงมาก พวกออกแบบเครื่องสำอางนี่ผมว่ามันสุดยอดหัวศิลป์จริง ๆ ลองไปลองมา (สงสัยว่าเจ้าของร้านมันคิดว่าผมเป็นกระเทยไปแล้วมั๊ง) มีหลายราคาตั้งแต่เป็นชุด ราคาหลายพันบาท สุดท้ายได้อันนี้ราคา ๒๐ บาท

เนื่องจากขนาดมันเล็กมาก ความยาวประมาณนิ้วชี้ แต่ผอมกว่านิ้วชี้ผมอีก น้ำหนักก็เบามาก แถมเปิดออกใช้งานก็สะดวก ปิดเก็บใส่กระเป๋า Notebook ก็ไม่เกะกะ ไม่ใช่แค่ใช้ปัดทำความสะอาดหน้าจอได้อย่างเดียว มันยังสามารถใช้ปัดตามซอก Keyboard ปัดทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของเครื่องได้เป็นอย่างดี รูปร่างหน้าตาก็ดูดี ถ้าเทียบประโยชน์การใช้งาน ประสิทธิภาพ ความสะดวก ความคุ้มค่าต่อราคา ผมขอฟันธง อันนี้เลยครับ

Saturday, October 01, 2005

Labtop ราคา $100 สำหรับเด็ก ๆ


ได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาว่านายกของเราจะซื้อ Labtop มาแจกเด็กนักเรียน ตอนแรกคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เพราะคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องต้องประกอบด้วย CPU, Hard Drive, RAM, Monitor, Mainboard และอื่น ๆ อีก สมมุติว่าเป็นเครื่อง Desktop แค่คิดแบบคร่าว ๆ ก็เป็นหมื่นเข้าไปแล้ว ยิ่งเป็น Notebook หรือ Labtop เลิกพูดเลยเพราะถ้าสเป็กเดียวกันมันจะแพงกว่า Desktop ขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะฉะนั้นถ้าบริษัทไหนจะมาขายเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ในราคา $100 รับรองเจ๊งแน่นอน ไม่ว่าจะทำยังไงราคานี้มันก็ทำไม่ได้แน่นอน

พึ่งรู้ข้อมูลมาว่ามันเป็นความจริง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ความคิดของนายก (ตอนแรกผมนึกว่านายกของเราเป็นคนริเริ่ม แล้วไปหาพันธมิตรเหมือนที่เป็นมา แต่อันนี้ไม่ใช่ ถึงยังไงก็ดีเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน) มันเป็นโครงการของทาง MIT Media Lab ซึ่งเขามีความคิดริเริ่มที่จะทำ Labtop ราคา $100 สำหรับเด็ก ๆ ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา โดยเริ่มต้นที่ ประเทศจีน ไทย บราซิล และ อียิปต์ เขาจึงได้เริ่มทำการวิจัยคิดค้น และสุดท้ายจะส่ง Spec ให้บริษัทผู้ผลิต ซึ่งต้องผลิตเป็นจำนวนมากเหมือนกัน คือต้องผลิตเป็นล้าน ๆ เครื่อง ถึงจะได้ราคานี้ และชื่อโครงการนี้ก็คือ One Labtop per Child (OLPC) สุดท้ายผลของการออกแบบก็ได้รูปร่างหน้าตามาเป็นแบบนี้



เห็นรูปตอนแรกแล้วงงกว่าเดิมอีก มันจะทำได้ยังไง $100 ทั้งบางทั้งเล็ก แถมยังสวยอีกต่างหาก ขนาดอันหนา ๆ มันยังเป็น $1,000 เลย พอไปดูรายละเอียดถึงพอเข้าใจ โดยสเป็คของมันคือ CPU 500 MHz, Memory 1 GB เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวก Flash, Monitor 1 Megapixel, WiFi, Cell Phone (ติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้), USB support, มีเครื่องปั่นไฟในตัว และใช้ Linux จะเห็นว่าไม่มี Hard Drive

สิ่งที่เขาสามารถทำให้ราคามันต่ำได้คือ
1. เทคโนโลยีที่เขาคิดขึ้นมาเพื่อผลิตจอนั้นราคาถูกมาก ทำให้ราคาจออยู่ที่ $35 เท่านั้น
2. ไม่มี Hard Drive
3. ใช้ Linux
4. ผลิตเป็นจำนวนมากโดยในช่วงแรกจะผลิต 10 - 15 ล้านเครื่อง และต่อไปคาดว่าจะผลิตปีละ 100 ล้านเครื่องเลยทีเดียว


จะเห็นว่ามันบางมาก ๆ



หมุนไปหมุนมาทำเป็น Labtop, ebook, Handheld, ดูหนัง, สมุดโน๊ต, Tablet ได้ สุดยอดการออกแบบจริง ๆ สมชื่อ MIT



ตอนสะพายก็ดูเท่ห์ไม่เบาแถมปั่นไฟใช้ได้เองอีกด้วย คราวนี้หละเอา Labtop ไปใช้ตอนเลี้ยงควาย หรือขี่หลังควายได้จริง ๆ บางคนอาจจะคิดว่าสเป็คต่ำขนาดนี้จะทำอะไรได้ ถ้าเปรียบเทียบกับ Pocket PC จะเห็นว่าตัว Pocket PC สเป็คต่ำกว่านี้ทุกอย่าง สามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต ทำงานเอกสารได้ เผลอ ๆ เขียนโปรแกรมได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นไอ้นี่เพียงพอแน่นอนสำหรับเด็ก ๆ

สิ่งที่ Labtop ตัวนี้ทำได้เมื่อเทียบกับเครื่องทั่ว ๆ ไปก็คือ ทำได้เหมือนกันหมดเกือบทุกอย่างยกเว้น การเก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ซึ่งไม่น่าจะจำเป็นมากสำหรับเด็ก เป็นสิ่งที่ดีถ้าเด็ก ๆ ของเราจะได้ใช้เครื่องพวกนี้ เข้าใจว่างบประมาณต้องใช้จำนวนมากพอสมควร และรัฐบาลไม่ใช่แค่จะซื้อเครื่องให้ก็จบ เพราะจะเห็นว่าตัวเครื่องไม่มี Storage เช่นพวก Hard Drive เพราะฉะนั้นข้อมูลส่วนใหญ่จะต้องเก็บอยู่บน Server อาจจะเป็น Server ของโรงเรียน และให้เด็ก ๆ เขาสามารถเรียกใช้ข้อมูลต่าง ๆ ได้ผ่าน WiFi โรงเรียนก็ต้องลงทุนกับของพวกนี้อีกพอสมควร และก็ต้องพัฒนาบุคลากรที่เป็นครูด้านคอมพิวเตอร์ให้เก่งขึ้นไปอีก ถ้าทำได้จะเป็นประโยชน์มาก ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีข้อมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตร์เป็นภาพสามมิติ ของประเทศไทย ก็สามารถส่งข้อมูลหรือโปรแกรมไปยัง Server ของทุก ๆ โรงเรียนเสร็จแล้วก็ให้นักเรียนโหลดเอาไปดูกันในห้องเรียนเพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน และสามารถเอากลับบ้านไปนั่งดูอยู่เถียงนาในวันเสาร์อาทิตย์ขณะไปช่วยพ่อแม่ทำนาก็ได้

ในอนาคตถ้ามี WiMax ใช้และสามารถ Support WiMax ได้นี่เด็ก ๆ ไทยคงไปอีกไกล ถ้าโครงการนี้สำเร็จคงต้องขอบคุณ Nicholas Negroponte ผู้ริเริ่มโครงการ และถ้านายกของเราเอามาต่อยอดทำให้เป็นรูปธรรม มีบริการด้านอื่น ๆ รองรับ ไมใช่สักแต่ซื้อแจกไปอย่างเดียว ก็จะต้องขอชมนายกคนนี้อีกสักครั้ง มารอดูกันว่าอนาคตจะเป็นเหมือนที่คิดไว้หรือเปล่า

ข้อมูลเพิ่มเติม
MIT Media Lab MrPalm Manager

Wednesday, September 21, 2005

Electronic Circuit Web

วันนี้ Nuxster แนะนำเว็บที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มีวงจรต่าง ๆ เยอะมากน่าจะประมาณ 2000 วงจรได้มั๊ง มีตั้งแต่ระดับง่าย ๆ ไปถึงยาก ๆ เลยก็มี เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Commlinx แต่หาวงจร ATX Power Supply ไม่ยักกะเจอ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมีใครซ่อมกันแล้ว ซื้อของใหม่อย่างเดียว เพราะราคาแค่ 200-300 บาท ไม่รู้จะมานั่งซ่อมให้เสียเวลาทำไม เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ไม่รู้ว่าดีกว่าจริงหรือเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้ เอะอะเปลี่ยนใหม่อย่างเดียว รู้สึกโง่ลงทุกวัน เพราะซ่อมอะไรไม่ค่อยเป็นแล้ว อะไรเสียก็เปลี่ยนมันทั้งชุด เผลอ ๆ เปลี่ยนมันทั้งเครื่องเลย เป็นเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็น Computer, Monitor, เครื่องเสียง, โทรทัศน์, พัดลม, เครื่องเล่น DVD VCD, โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

แต่บางอย่างซ่อมเอาก็ถูกกว่ากันมากเลยนะ ยกตัวอย่างเมื่อปีที่แล้วเอารถไปซ่อมที่ศูนย์ ช่างบอกว่า ECU เสียต้องเปลี่ยนใหม่ราคา 50,000 บาท ซ่อมไม่ได้ (จริง ๆ แล้วน่าจะบอกเราว่าซ่อมไม่เป็นมากกว่า) ตอนแรกก็คิดว่าจะต้องเปลี่ยนจริง ๆ ไม่คิดว่าจะซ่อมได้เพราะวงจรก็ไม่มี หลักการทำงานก็ไม่รู้ ก็เลยขอเอามาดูเล่น ๆ มันก็เสียจริง ๆ แต่ว่าตัวที่มันเสียคือ C แค่ตัวเดียว ก็เลยไปหาซื้อมาใส่ราคา 10 บาท ซึ่งถือว่าแพงเพราะปกติ C มันแค่ตัวละ 1 - 2 บาท แต่ไอ้ตัวนี้มันต้องทนความร้อนได้สูง ๆ เพราะมันอยู่ในห้องเครื่อง มันก็เลยแพง พอซ่อมเสร็จก็เอาไปใส่ปรากฏว่า ใช้งานได้ปกติ จนถึงทุกวันนี้

เดี๋ยวนี้เหมือนกันไปหมดทั้งประเทศแล้วมั้งไม่ว่าจะเป็นช่างไฟ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างยนต์ ช่างกล คือไม่ใช่ช่างซ่อม เหมือนสมัยก่อน แต่เป็นช่างเปลี่ยนซะมากกว่า เอะอะเปลี่ยนอย่างเดียว เพราะยังไง ๆ ลูกค้าก็จ่ายเงินอยู่แล้ว ข้าไม่ได้จ่าย ไม่รู้จะเป็นช่างซ่อมให้มันลำบากตัวเองทำไม เป็นช่างเปลี่ยนดีกว่า รวดเร็ว ประหยัดเวลา ไม่ต้องปวดหัว นี่โชคดีนะที่ ยังไม่มีอะไหล่มนุษย์ ไม่งั้นเดี๋ยวลามปามไปถึงหมอ ไอ้นี่มาเปลี่ยนขา ไอ้นี่มาเปลี่ยนแขน ไอ้นี่มา เปลี่ยนปอด ส่วนไอ้นี่โง่มา เปลี่ยนหัวให้เลย

The Art of Project Management

ไปเจอหนังสือ The Art of Project Management เป็นเรื่องที่กำลังสนใจอยู่พอดี เพราะเท่าที่รู้และเจอมา ปัญหาหลัก ๆ ของเมืองไทย (ไม่นับปัญหาเรื่องการโกงกิน การคอรัปชั่นของนักการเมืองเพราะมันเป็นเรื่องปกติไปซะแล้ว) ก็คือ การที่จะหา Programmer เก่ง ๆ มาทำงานให้หรือร่วมงานนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่การที่จะหา Project Manager ที่เก่ง ๆ นั้น ยิ่งหนักไปกว่าเดิมอีกหลายเท่า คือ แทบหาไม่เจอ การเขียนโปรแกรม กิ๊กก๊อก สัปดาห์สองสัปดาห์ก็เสร็จนั้นอาจจะไม่ต้องใช้ Project Manager เพราะปกติทำคนเดียวเขียนคนเดียว แต่ถ้าโปรเจคเริ่มใหญ่ขึ้น ต้องเขียนกันหลายสิบคน หลายร้อยคน หรือหลายพันคน ต้องใช้เวลาเป็นปี มี Requirement เป็นพัน ๆ และต้องแบ่ง Phase ในการ Release เป็นระยะ ๆ อันนี้ไม่หมูซะแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรมาก สมมุติว่าต้องเขียนโปรแกรม เด็ก ๆ อย่าง Minesweeper ร่วมกัน โดยมีโปรแกรมเมอร์ 5 คน โดยให้ทุก ๆ คนได้ทำงานเท่า ๆ กัน เพื่อที่จะใช้เวลาให้น้อยที่สุด ต่างคนต่างทำแต่สามารถนำมา Compile ร่วมกันจนเป็น Software ที่สมบูรณ์ แค่คิดก็ไม่รู้แล้วว่าจะเริ่มต้นยังไงแล้ว เดี๋ยวรอสั่งซื้อมาอ่านก่อน แล้วจะมา Review สรุปให้อ่านกันครับ

Sunday, September 18, 2005

Yahoo Instant Search

เห็น Yahoo เปิดตัว Instant Search ซึ่ง พอเราพิมพ์ keyword ลงไปปุ๊บมันก็จะแสดงผลให้เราเห็นเลย ดูน่าสนใจดี แต่ก็ไม่น่าตื่นเต็นอะไรเท่าไหร่ เพราะผลที่ได้มีแค่รายการเดียว และถ้าเรากด Enter ก็จะได้ผลอันนี้เหมือนกัน ดูเหมือนหรู แต่คงไม่เวิร์กเท่าไร

http://instant.search.yahoo.com/

wxWidgets

เห็นเขาบอกว่า wxWidgets เป็น Cross-plateform GUI Programming in C++ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ มัน เป็น Opensource ด้วย ถ้าว่าง ๆ (ซึ่งไม่ค่อยมีในชีวิต) จะลองเขียนโปรแกรมกิ๊กก็อกซักตัวดูว่าจะน่าสนใจหรือเปล่า

Saturday, September 17, 2005

PuTTY SSH

เมื่อก่อนหน้านี้ใช้ Client OpenSSH เพื่อ Remote เข้าไปจัดการกับ Server แต่พึ่งมีคนบอกว่า PuTTY ตัวนี้ดีกว่า ก็เลยลองไป Download มาลองใช้ดู จาก Download Page ลองใช้ดูแล้ว เข้าท่ากว่า OpenSSH

Linux TLE

ลองลง Linux มาหลายตัวแล้ว รวมทั้ง Linux TLE ด้วย แต่ปกติจะกำหนดค่าต่าง ๆ เอาเอง แต่วันนี้ลองลงแบบ Default เป็น Desktop ระบบได้ Set Default Password สำหรับ Root คือ 12345 และมี username : tleuser ได้ ถูก set password เป็น 123456 เช่นเดียวกัน

Wednesday, September 14, 2005

Google Blog Search

Google เปิดบริการ Blog Search แล้ว แต่ยังเป็น Version Beta อยู่ โดยรายการแสดงผลนั้นเราสามารถเลือกได้ว่า จะ Sorted by relevance ซึ่งเป็นค่า Default หรือ Sort by date (อยู่ตรงมุมขวามือด้านบน) ลองใส่คำว่า

hardware software gps ohm

เพื่อ Search ดู จะเห็น หัวข้อที่แล้วที่ผมพึ่งเขียนไป
หรือ ลอง Search คำว่า

google blog search ohm hardware software gps

ก็น่าจะเจอหัวข้อนี้ ( หลังจากผม Publish ข้อความไปซักระยะแต่คงไม่นาน )

หลักการทำงานของ Google Blog Search คือ ตัว Search Engine จะทำ Index ของข้อมูลใน Blog จาก site feed ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ข้อมูลที่ได้จะ update ค่อนข้างเร็วและถูกต้อง เมื่อเทียบกับการ search web โดยทั่วไป

Hardware & Software GPS

Navigator Software ==> Destinator PN PDA Personal Navigation Software ไม่รู้มีแผนที่ประเทศไทยหรือเปล่า

GPS ข้อมือครับ Garmin Forerunner 301

Bluetooth GPS Navicore Personal หรือที่ navicore


Monday, September 12, 2005

Windows to Linux: A Beginner's Guide

บทเรียนแรกสำหรับคนที่จะเริ่มเรียนรู้ Linux ครับ สอนความรู้เบื้องต้น เปรียบเทียบ Linux และ Windows

http://www.reallylinux.com/docs/windowstolinux.shtml

โดยมีหัวข้อดังนี้

- The All Important File Manager
- Configuring the PC with Control Panel
- Finding Programs on your system
- Gnome Search Example
- KDE Search Example
- Adding Programs to the Desktop

ส่วนบทความอื่น ๆ ที่สอนมือใหม่ Linux ก็เข้าไปดูที่หน้า Home Page ได้เลย ใช้ได้ ๆ

How to add a second hard drive in Fedora (Linux)

ตอนที่ลง Linux ใหม่ ๆ มีปัญหาคือ พอมี Hard Drive เพิ่มมาอีกตัว แล้วไม่มีปัญญา Set ให้มันใช้งานได้ พึ่งไปเจอบทความวันนี้เอง เดี๋ยวเจอกัน

http://fedoranews.org/tchung/storage/

Sunday, September 11, 2005

iPod nano

ออกมาขายตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผมว่า Apple นี่เค้าทำได้สุดยอดจริง ๆ คิดว่า iPod รุ่นแรก ๆ สวยแล้ว nano ออกมายังสวยกว่าอีก แถมบางมาก ๆ เห็นว่าใช้อุปกรณ์ประเภท Flash Memory ความจุก็เลยไม่มากนัก (4 GB ก็ฟังกันเป็นเดือนแล้ว) เมื่อเปรียบเทียบกับ Hard Drive แต่ก็มีข้อดีคือเล็กมาก ๆ




ดูรีวิวได้ ที่นี่

ที่ MAC4Thai ก็มี Review แล้วเหมือนกัน

Ref: iPod nano

RSS

ได้ยินเรื่อง RSS มานานพอควรแล้วแต่ยังไม่ได้ลองใช้ซักทีวันนี้ก็เลยไป Download จาก www.rssreader.com มา Install ดู ซึ่งเป็น Freeware ดู ๆ แล้วก็น่าจะ OK

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก RSS ขออธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังหน่อย (สำหรับคนที่รู้แล้วก็ไม่ต้องอ่านนะครับเสียเวลา)

RSS ย่อมาจาก Really Simple Syndication เป็นวิธีการ Check ว่าเว็บไซต์ที่เราสนใจมีอะไร Update หรือเปล่า เช่น พวก blog หรือ web ข่าว ต่าง ๆ สมมุติว่ามีเว็บที่เราสนใจเข้าไปอ่านเป็นประจำอยู่ 10 เว็บ ปกติเราก็ต้องเข้าเว็บเพื่อไป check ดูว่ามีอะไรใหม่ ๆ หรือเปล่า บางทีเข้าไปแล้วก็เจอข้อมูลเดิมที่อ่านหมดแล้ว บางครั้งก็ทำให้เสียอารมณ์ บางทีลืมเข้าไป check ดูหลายวันก็ทำให้ตกข่าวไปได้เหมือนกัน

RSS มาช่วยแก้ปัญหานี้ ตัว RSS Reader จะทำหน้าที่ไป check ให้เราอัตโนมัติ โดยเราสามารถตั้งเวลาเป็น period ให้เข้าไป check ทุก ๆ นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ได้ เมื่อมีอะไรใหม่ ๆ update ตัว Software ก็จะรายงานให้เราทราบทันที แต่ทั้งนี้ที่ Server ก็ต้อง support RSS ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งบางครั้งก็ใช้คำว่า atom หรือ xml




เราก็เพียง copy url ของ RSS เช่น http://ohmdev.blogspot.com/atom.xml เพื่อไป Add new feed ของเรา ก็เป็นอันเสร็จ

สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บถ้าหากเราต้องการให้ใช้งาน RSS ก็เพียงแค่สร้างไฟล์ที่อยู่ในรูปแบบ XML format ขึ้นมา ก็เป็นอันใช้ได้ แล้วก็ Update File นี้เมื่อมีการ Update หรือถ้าใช้ Software ประเภท CMS ปกติก็จะมี Module มาให้ใช้อยู่แล้ว

ตัวอย่าง หน้าตา



ล่าสุด map ของ Google ก็สามารถใช้ RSS ได้ด้วย ดูรายละเอียดได้ที่นี่ http://brainoff.com/gmaps/rss.html

Saturday, September 10, 2005

Webmin, Control Panel for Web Server

พึ่งได้ Server มา ซึ่ง Server ตัวนี้ลง FreeBSD 4.9 ลงไปและ ลง Plesk 7.5 Demo Version ไว้เพื่อเอาไว้จัดการ Server
ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาเงินมาซื้อ Plesk เพราะเคยใช้มาก่อนและเขาทำได้ดีมาก แต่ราคามันก็แพงอยู่เหมือนกันคือ ประมาณ 8000 บาท ต่อ 30 Domains กะว่าจะกัดฟันซื้อมาใช้เพราะไม่รู้ว่ามีโปรแกรม Opensource หรือเปล่า ที่รู้อีกตัวหนึ่งคือ cPanel ซึ่งตัวนี้ก็ขายเหมือนกัน

ลอง Search หาใน Google ดู พบว่ามี Opensource ที่น่าสนใจอยู่หลายตัวเหมือนกันเช่น
VHCS
Webmin
Virtualmin ตัวนี้ต้องใช้ร่วมกับ Webmin
zPanel

ลองดูข้อมูลแล้ว Webmin น่าจะดีแต่ความสวยสู้ VHCS ไม่ได้ แต่กลัวมันจะใช้ไม่ได้ ก็เลย จะลง webmin เพราะ FreeBSD เขารองรับแน่นอน

ขั้นต่อมาก็ต้อง Uninstall Plesk ก่อน ทำตามรายละเอียดดังนี้

First, log in through telnet and change to super-user with the su - command. If you have local access, log in as root.

Run /usr/local/psa/admin/bin/deinstall.sh deinstall. This will remove Plesk 6.0 from the system.

Delete /etc/psa directory.

ดูรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่นี่ Uninstall Plesk

ตรวจสอบดูก่อนว่าเครื่องของเรามี Package อะไรติดตั้งอยู่บ้าง
pkg_info
ถ้ายังไม่เจออะไรเลยก็ต้องมาเริ่มกันใหม่หมด

เข้าไป Search ที่ http://www.freebsd.org/ports/index.html เพื่อดูว่า Package ที่เราต้องการนั้นอยู่ตรงไหน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Finding Your Application

สำหรับผม Search คำว่า webmin เพราะต้องการลงตัวนี้ ได้ผลลัพท์ สอลรายการคือ
virtualmin และ
webmin (ต้องการลงตัวนี้)
สังเกตุดู Requires มีอยู่สามตัวที่ต้องลงเพิ่ม p5-Authen-PAM-0.14, p5-Net-SSLeay-1.25, perl-5.8.7 (Version อาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง)

เราสามารถพิมพ์ Command Line เพื่อดู Package ที่เครื่องเลยก็ได้ (ถ้ามี)
whereis webmin

ต่อมา Download Software ที่ต้องการ ตามรายละเอียดจาก Installing a Package

# ftp -a ftp2.FreeBSD.org
ftp> cd /pub/FreeBSD/ports/packages/perl5/
ftp>dir perl* เพื่อดูชื่อ File
ftp> get perl-5.7.8.tbz (พิมพ์แค่ตัวต้นแล้วกด tab ก็ได้)
หรือจะใช้คำสั่งนี้เลยก็ได้
ftp>get /pub/FreeBSD/ports/packages/perl5/perl-5.7.8.tbz
แล้วก็นั่งรอนานเลยเพราะขนาดตั้ง 10 MB
แล้วก็เข้าไปเอาตัวอื่น ๆ ที่จำเป็น (Require)
ftp>get /pub/FreeBSD/ports/packages/security/p5-Authen-PAM-0.14
ftp>get /pub/FreeBSD/ports/packages/security/p5-Net-SSLeay-1.25
ftp>get /pub/FreeBSD/ports/packages/sysutils/webmin-1.220_3
ส่วนตัวนี้ใช้สำหรับทำ Virtual Host ผมก็เลยจะลองเอามาเล่นดู
ftp>get /pub/FreeBSD/ports/packages/sysutils/virtualmin-2.50

พอเสร็จแล้วก็กลับบ้านเรา
ftp>by

#pkg_add perl-5.7.8.tbz
#pkg_add p5-Authen-PAM-0.14
#pkg_add p5-Net-SSLeay-1.25
#pkg_add webmin-1.220_3

ดูซิว่า package ที่เราลงมันเรียบร้อหรือเปล่า
#pkg_info

มีปัญหาอีกและ คือ พอ Run
#/usr/local/lib/webmin/setup.sh

#/usr/ports/systuils/webmin/make install
มันบอกว่าเครื่องไม่มี web server ต้องไปหาวิธีลง apache เสียก่อนมั๊งเนี่ย

#pkg_delete webmin-1.220_3

ดูตำแหน่งของคนเข้า web ของเรา

สามารถดูตำแหน่งว่ามีใครจากไหนเข้ามาดูเว็ปเราบ้าง ดูรายละเอียดได้ที่ เว็บของ p' Poonlap ครับ
http://poonlap.blogspot.com/2005/09/gvisit.html

Thursday, September 08, 2005

Quake3 เปิดเป็น Opensource GPL

ใครสนใจเขียนเกม ลองเข้าไป Download มา Compile ดูนะครับ
http://www.shacknews.com/onearticle.x/38305

MS Visual Studio .NET 2005 & Tutorial

เมื่อคืนนั่งเขียนโปรแกรมเพลินไปหน่อย จนถึงตี 4 เพราะไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับ VS .NET 2005 ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจอยู่มากเลยทีเดียว

http://lab.msdn.microsoft.com/express/

เว็บนี้ทำได้สุดยอดจริง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับอะไรใหม่ ๆ ใน VS .NET 2005 และจะมีบางส่วนที่เป็น Tutorial เป็นการสอนให้เราทำตาม ลองเข้าไปดูที่ quick tour ถือว่าเป็นสื่อการสอนที่ยอดเยี่ยมมาก เป็น e-learning ที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เคยเห็นตั้งแต่เกิดมาเลยทีเดียว ต่อไปถ้าเขาทำแบบนี้ออกมาเยอะ ๆ ก็ไม่ต้องไปอบรมตาม สถาบันแล้วหละ (ไม่รู้ว่าใครจะมาขยันทำให้เรียนกัน)

Windows Form Component ก็มีเพิ่มมาพอสมควร มีแต่ดี ๆ ทั้งนั้น เช่น ชุด Control Panel ที่มีปุ่ม Open, Save, Cut, Copy, etc. ก็มีมาให้เป็นชุดเรียบร้อยเลย

ส่วน Microsoft Development Enviroment 2005 นั้นก็ทำได้ดีอีกเหมือนกัน มีอะไรที่ทำให้สะดวกขึ้นอีกเยอะเลย ไม่ว่าจะแสดงส่วนของ code ที่เราทำการ Edit แต่ยังไม่ได้ Save, การเปลี่ยนชื่อ object ถ้าเป็นแต่ก่อนต้องไปไล่เปลี่ยนเอาเองทุก ๆ ตัวใน Source Code แต่เวอร์ชั่นนี้จัดการให้เรียบร้อยเลย และอีกอันก็คือสามารถดู ค่าของ object เช่นถ้าเป็น object ที่เก็บ string ที่เป็น XML ก็สามารถ View เป็น XML ได้เลยถือว่าสะดวกขึ้นมาก ๆ

.NET Framework 2.0 ก็มีอะไรใหม่ ๆ เพียบเหมือนกัน เช่นในส่วนของ Web Form Component ก็มี Login Controls, Navigation Controls และ WebParts Control เป็นต้น มีแต่เด็ด ๆ ทั้งนั้น ดูรายละเอียดได้ที่ ASP.NET 2.0

ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยคนที่คิดจะหนีจาก VS .NET ไปซบอก Opensource ต้องทำใจยากขึ้นไปอีก เพราะมันทั้งมีพลัง ทั้งง่าย และก็สวย ถึงแม้จะแพงก็คงต้องยอมซื้อใช้ต่อไป และเท่าที่เข้าไปติดตามดูใน Mono Project นั้น พบว่าเขาก็ทำไปได้ไกลแล้วเหมือนกัน เพราะสามารถ Support ส่วนหลัก ๆ ได้เกือบทั้งหมดแล้ว ในส่วนของเว็บเองก็สามารถ Support ทั้ง Webpage และ Webservice เรียบร้อยแล้ว

BSD Forums

ถ้าต้องการจะ check version ของ FreeBSD (หรือของพวกตระกูล unix) คำสั่งที่ใช้คือ
uname -a

ถ้าอยากรู้อย่างอื่น ลองเข้าไปดูที่ BSDforums.org มีอีกเพียบ

Sunday, September 04, 2005

Mott Insulator

เห็นข่าวในเว็ปผู้จัดการรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์เกาหลีประสบผลสำเร็จในการพัฒนา Mott Insulator ซึ่งจะมาแทน Silicon ซึ่งมีข้อดีคือ สามารถทำขนาดได้เล็ก ถึง 5 นาโนเมตร ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนในขนาดที่เล็ก ๆ (ถ้าเป็น Silicon มันจะพัง หรือทนพลังงานได้น้อยกว่า) และอีกประเด็นก็คือเมื่อแรงดันสูงจะมีอุณหภูมิไม่สูงมากเหมือน Silicon

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9480000119836

เพิ่มเติม
http://www.mg.co.za/articlePage.aspx?articleid=249838&area=/breaking_news/breaking_news__business/
http://www.physik.uni-mainz.de/quantum/bec/experiments/mottinsulator.html
http://www.bakutoday.net/afps/english/shared/hightech/050902073417.hcwm8omb.html

Wednesday, August 17, 2005

Living Without Microsoft

วัตถุประสงค์การตั้งเว็บน่าสนใจ ขอลองอ่านดูก่อนว่าเนื้อหาเป็นอย่างที่เขียนไว้หรือเปล่า

http://www.livingwithoutmicrosoft.org/

ข้างในมี Link น่าสนใจอีกอัน
Tired of supporting friends' computers? Migrate them to GNU/Linux
http://software.newsforge.com/article.pl?sid=05/04/29/0237254

Tuesday, August 16, 2005

Two Guru

บทความดี ๆ เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม เนื้อหาดีมาก ๆ สมชื่อ Guru ครับ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ OOP

http://www.twoguru.com

Unpack a compressed tar file

How do I unpack a compressed tar file( files ending in *.tar.Z or *.tar.gz )?

gunzip filename.tar.gz
tar xvf filename.tar


Ref: http://www.eps.surrey.ac.uk/FAQ/unpack.html

Monday, August 15, 2005

Blog ยอดนิยม

This summary is not available. Please click here to view the post.

Wednesday, August 10, 2005

RSS

น่าจะลองใช้ดูเผื่อว่าจะมีประโยชน์ในการทำเว็บ
http://www.webreference.com/authoring/languages/xml/rss/intro/

ใน blogger นี่ก็ใช้เหมือนกัน

Tuesday, August 09, 2005

Game Online Course

ใครสนใจเรียนการเขียน Game Online เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ

http://www.manager.co.th/Game/ViewNews.aspx?NewsID=9480000107123

Monday, August 08, 2005

MSC & CPL

บางครั้งจะเรียกโปรแกรมบน วินโดส์ ต้องคลิกหลายครั้งเสียเวลา สู้กด Windows+r (Windows หมายถึง key ที่เป็นรูปคล้าย ๆ ธง บนแป้น keyboard) แล้วพิมพ์คำสั่งเลยสะดวก กว่า ที่ใช้บ่อย ๆ คือ

certmgr.msc
ciadv.msc
comexp.msc
compmgmt.msc
devmgmt.msc
dfrg.msc
diskmgmt.msc
eventvwr.msc
fpmmc.msc
fsmgmt.msc
gpedit.msc
iis.msc
lusrmgr.msc
mscorcfg.msc
ntmsmgr.msc
ntmsoprq.msc
orammcadm9us.msc
perfmon.msc
rsop.msc
secpol.msc
services.msc
wmimgmt.msc
access.cpl
appwiz.cpl
avsmcpa.cpl
CamCpl.cpl
desk.cpl
hdwwiz.cpl
igfxcpl.cpl
ImageDrive.cpl
inetcpl.cpl
intl.cpl
irprops.cpl
joy.cpl
main.cpl
mmsys.cpl
ncpa.cpl
nusrmgr.cpl
nwc.cpl
odbccp32.cpl
powercfg.cpl
QuickTime.cpl
sysdm.cpl
telephon.cpl
timedate.cpl

Tuesday, August 02, 2005

Redirect Web Page

การทำ redirect Page แต่ก่อนเคยเขียนแล้วลืม พอจะใช้งานก็นึกไม่ออก เอามา Post ไว้เผื่ออ่านวันหลังดีกว่า

ดูวิธีได้ที่ http://www.cmsthailand.com/web45-47/print.php?sid=31

MAMBO

วันนี้ Download Mambo จาก MamboForge
http://mamboforge.net/frs/?group_id=598&release_id=4658

ซึ่งเป็นที่เก็บไฟล์โปรเจคของ Mambo version ภาษาไทย
หลังจาก Download เสร็จ unzip แล้ว upload ขึ้น server

เสร็จแล้วก็เรียกเข้าไปที่ web แล้วก็ทำตามขั้นตอน มีต้องกำหนดสิทธิ์ Write ให้หลาย ๆ Folder เสร็จแล้ว ลบ installation directory ออก
แล้วก็ copy ค่า config ไป Save เป็น ไฟล์ confiugration.php แล้ว upload ขึ้น server

ผลปรากฏว่าใช้ไม่ได้..........
ไม่มีอะไร Error แต่ทำไมมันใช้ไม่ได้ เข้าไป Check ดู Database ก็ Create เรียบร้อยแล้ว เข้าไปดูสิทธิ์ทุกอย่างก็ ไม่มีปัญหาอะไร แล้วมันเป็นที่อะไรหว่า

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง.......อารมณ์เริ่มขุ่น มันเป็นอะไร (วะ) ทำไมมันเซ็ตยากอย่างนี้ (วะ)







ดูไปดูมา อ้าว confiugration.php มันผิดนี่หว่าต้องเป็น configuration.php ก็เลยแก้ชื่อแล้ว upload ขึ้นไปใหม่ ปรากฏว่าใช้ได้ทันที โง่อยู่ตั้งนาน ก็เลยลอง login เข้าไปเล่นในหน้า admin นิดหน่อย พบว่าใช้งานได้ง่ายทีเดียว

โดยรวมแล้วถือว่าติดตั้งง่ายมาก (ถ้าไม่พิมพ์ชื่อไฟล์ผิด) น่าประทับใจ

แต่ Module อื่น ๆ ไม่รู้เป็นไง เพราะยังไม่ลองเล่นดู

นอนก่อนดีกว่า ตีสองกว่าแล้ว

Thursday, July 28, 2005

เปิดใช้งาน vsFTP

อันดับแรกตรวจสอบก่อนว่า vsFTP package ลงไว้หรือยัง
rpm -q vsftpd
ถ้าติดตั้งไว้แล้วจะแสดง version ของ vsFTP
แต่ถ้ายังจะต้องติดตั้งด้วยคำสั่ง
rpm -ivh vsftpd-1.1.xx.i386.rpm

แล้วตรวจสอบใน vi /etc/services
จะต้องเห็น
ftp 21/tcp
ftp 21/udp

มีให้เลือกใช้ 2 Mode คือ Stand-alone หรือ inetd/xinetd

ถ้าใช้งานในโหมด inetd/xinetd ต้องลบข้อความคำสั่ง listen=YES ออกจากไฟล์ /etc/vsftpd.conf เพราะจะทำให้เดมอนของ vsFTPd ไม่ทำงาน

Wednesday, July 27, 2005

Nvu

เป็น Opensource HTML tool ลอง Download มาเล่นแล้วแต่ยัง ใช้กับภาษาไทยไม่ได้ กำลังหาวิธี Set ฮยู่เหมือนกัน

Monday, July 25, 2005

MSN Virtual Earth

สงสัย Microsoft จะไม่ยอม Google จริง ๆ แฮะ เล่นออกมาชนกันตรง ๆ แบบนี้ อนาคตคงสนุกแน่
http://virtualearth.msn.com/

แต่ที่เป็นข่าวฮือฮาก็คือ MSN ดันไปลบตึกของ Apple ออกนี่สิ มันหมายความว่าไง
ดูได้ที่นี่ครับ http://www.theregister.com/2005/07/25/msn_earth_deletes_aple/

ส่วน Google ก็ออกมา Update Map ในลักษณะ Hybrid เพราะก่อนหน้านี้กว่าจะหาบ้านตัวเองเจอต้องใช้เวลานาน แต่มี Update แค่ อเมริกา แคนนาดา อังกฤษ แล้วก็ ญี่ปุ่นแค่นั้นเอง คนไทยต้องรอไปก่อน

แล้ว Yahoo ว่าไงครับ จะเล่นกับเขาหรือเปล่า?

Google Desktop Search

ลอง Download Google Desktop Search มาเล่นดูพบว่าใช้ได้ทีเดียว เวลาค้นหาไฟล์ในเครื่องของตัวเอง ปกติจะช้ามาก แต่พอลงตัวนี้ไป ไม่เกิน สองวินาทีก็ได้ผลแล้ว ใช้ได้ ใช้ได้

http://desktop.google.com/

Friday, July 22, 2005

Freeware Programs & Applications

มีคนมาแนะนำไว้ที่นี่ครับ http://forums.anandtech.com/messageview.aspx?catid=33&threadid=997283&enterthread=y

น่าสนใจอยู่หลายตัวเหมือนกัน เช่น http://www.httrack.com/ เป็น GPL Offline Browser ใช้ Copy Web มาเก็บไว้ที่เครื่องของเรา

Thursday, July 21, 2005

OpenOffice 2.0

ได้ข่าวเรื่อง OpenDocument ว่าบางประเทศกำหนดให้เอกสารในประเทศนั้นต้องเป็นระบบเปิด ก็เลยต่อเนื่องมาถึง OpenOffice
http://www.openoffice.org
ส่วนภาษาไทยเข้าไปดูได้ที่
http://th.openoffice.org

ลองเล่นดูแล้วถือว่าทำได้ดีมากเลยนะครับ ขนาดเป็น Beta Version อยู่เลย

Free Book VB.NET 2005 from Microsoft

Microsoft แจกฟรี Introducing Visual Basic 2005 for Developers
Download ได้ที่ http://msdn.microsoft.com/vbasic/whidbey/introto2005/

ได้ข้อมูลมาจาก blognone ครับ

GATES VS. GOOGLE

มีบทความน่าสนใจที่อธิบายสงครามระหว่าง Microsoft กับ Google น่าสนใจมากครับ ไม่ควรพลาด
http://porrama.blogspot.com/2005/05/gates-vs-google.html

อ่านแล้วสนุกดีครับ

Tuesday, July 19, 2005

SAMBA Problem

วันนี้ลองเพิ่ม Share Directory โดยใช้ GUI Tool ที่มีอยู่ พอเพิ่มแล้วมันฟ้องว่า Access is denied. แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะ Directory เดิมที่ Share ไว้ก็ดันติด Access is denied. เหมือนกันหมดเลย เข้าไปแก้ Permission ยังไงก็ไม่ได้ Sync Password กับระบบแล้วก็เหมือนเดิม แต่เท่าที่ดูมัน Connect ไปได้แล้ว เห็นขนาดของ Directory เรียบร้อย แต่มันติดตรงที่เข้าไปใน Directory ไม่ได้


นั่งทำไปทำมาสิบตลบแล้วก็ยังไม่ได้ ทำไงดีหว่า ^@^!!!

ครึ่งวันผ่านไป..........

ตอนเย็นปิดเครื่อง Client แล้วเปิดใหม่ปรากฏว่าใช้ได้แล้ว (เฉยเลย) ทั้งสองอัน งงโคตรเลย อะไรกันเนี่ย พี่คอมพิวเตอร์แกเล่นแสดงธรรมเรื่องอนัตตาให้ดูกันจะ ๆ เลยหรือไงเนี่ย

Monday, July 18, 2005

The GIMP & Blender

เมื่อคืนนั่ง Download The GIMP และ Blender มา Install ที่เครื่องเพราะตั้งแต่ได้เครื่องใหม่ยังไม่ได้ลงสองตัวนี้เลย พบว่า The GIMP นั้นสามารถเปิด ไฟล์ที่เป็น .svg (XML format) ได้ แต่ตอนที่ Save นั้นไม่สามารถ Save เป็น .svg ได้ต้อง Save เป็นไฟล์รูปภาพเท่านั้น ยังไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ไขไฟล์ .svg แล้วสามารถ Save เป็น XML คืนได้อย่างไร

Sunday, July 17, 2005

Thai Open Source & Free Antivirus S/W

วันนี้เข้าไปเล่นใน www.thaiopensource.org มาเห็นมีแนะนำ Software น่าสนใจหลายตัว บางตัวก็เคยใช้มาแล้วแต่บางตัวพึ่งเห็น เช่น

http://www.openclipart.org/ เป็นโปรแกรมสำหรับทำ Clipart ต่าง ๆ น่าสนใจมาก แต่ขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควรเกือบร้อยเมกกะไบต์

http://www.clamwin.com/ ส่วนอันนี้เป็น Antivirus ที่ฟรี หาอยู่ตั้งนานเหมือนกันกว่าจะเจอ เพราะ Antivirus ส่วนมากคิดตังค์กันทั้งนั้น นี่ถ้าว่าง ๆ ว่าจะสมัครเป็นสมาชิกช่วยเขา เผื่อว่าจะได้เก่งขึ้นบ้าง

http://www.free-av.com/ อันนี้ก็ Antivirus อีกตัวหนึ่งเหมือนกัน

Wednesday, July 13, 2005

Google Map


วันนี้เข้าไปลองเล่น Map ของ Gooogle ดู สุดยอดจริง ๆ รูปด้านข้างนี้เป็นตัวอย่างของ View ใน โคราช แถว ๆ ย่าโมครับ

ยังมีที่อื่น ๆ อีก เช่น สามแยกไปขอนแก่น หรือ The Mall Korat สุดยอดจริง ๆ เห็นโคราชหมดเลย ดูแล้วคงถ่ายเมื่อปีที่แล้ว เพราะพอจำเค้าได้ลาง ๆ

Monday, July 11, 2005

CDBurnerXP Pro

ทดลองใช้โปรแกรม Write CD อยู่หลายตัวและก็พยายามหาของฟรีอยู่นาน สุดท้ายไปเจอในวารสารที่แนะนำเกี่ยวกับ CD Burner Software หลาย ๆ ตัว ทดลองใช้ CDBurnerXP Pro เป็นตัวแรกรู้สึกประทับใจ เพราะทำได้สวยและดีทีเดียว
วารสารคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งความรู้ที่ทำให้เราได้รับรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอมา ถึงแม้ว่าบางบทความจะไม่ได้ประโยชน์ แต่ถ้ามีบทความที่ดี ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบหรือหนึ่งในร้อยก็ถือว่าคุ้มแล้วหละ

http://www.cdburnerxp.se/

ส่วนตัวอื่น ๆ ยังไม่ลองถ้าใครอยากลองไปเล่นดูเองนะครับ
http://www.burnatonce.com
http://www.burn4free.com/
http://www.paehl-info.de/cdr/
http://www.deepburner.com

Wednesday, June 29, 2005

Setup Samba

หลังจากพยายามที่จะใช้งาน samba อยู่หลายวันพึ่งจะมาได้วันนี้เอง
หลังจากลงโปรแกรมแล้วและ Run service แล้วแต่ไม่สามารถ connect เข้าไปได้ เนื่องจากติดที่ไม่มี user ของ samba ตอนแรกนึกว่ามันจะไปเอา user ของ system มาใช้เลยแต่ปรากฏว่าไม่ใช่
วิธีสร้าง user นั้นทำอย่างนี้
smbpasswd -a myname
แล้วก็ใส่ password
แต่ถ้าต้องการ creae user สำหรับเครื่อง windows โดยให้ username เป็นชื่อเครื่อง

cd /usr/sbin
useradd computername$
smbpasswd -a -m computername$ -n
-a : Add
-m : Machine Account
-n : ไม่ต้องการ password

^_^ ตอนนี้ใช้ได้แล้ว มีความสุขจังเลย รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันดีสำหรับการใช้งาน Linux เพราะทำอะไรก็สำเร็จไปหมด แต่ก็เป็นผลเนื่องมาจากการมั่ว ในหลาย ๆ วันที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นตอนที่กำลังมั่วอยู่ความรู้ไม่ได้หายไปไหนเพราะมันมาเสริมความรู้ให้วันที่สำเร็จนั่นเอง

ภาษาไทยใน Fedora

พอใช้งานไปชักขัด ๆ เพราะโฟลเดอร์ที่ตั้งเป็นภาษาไทยชัดขัด ๆ มันอ่านไม่ได้เลยก็เลยต้องหาวิธี ทำให้ Fedora ใช้งานภาษาไทยได้ ก็เลยไปเจอวิธีการที่นี่
http://www.bangkokbiznews.com/scitech/2004/0602/news.php?news=column_13172498.html

ขออนุญาต copy มาให้อ่านเลยแล้วกัน

ทีนี้ Fedora Core 2 ไม่มีปัญหากับภาษาไทยแล้ว แต่การใช้งานภาษาไทยไม่ได้ถูกตั้งมาตั้งแต่แรก จึงต้องมีขั้นตอนนิดหน่อยครับ
1. ตอนลง Fedora Core 2 ตัวติดตั้งจะถามว่าต้องการให้สนับสนุนภาษาอะไรบ้าง ให้ทำเครื่องหมายที่ภาษาไทยเข้ามาด้วย
2. เมื่อลงเสร็จและล็อกอินเข้ามาแล้ว ให้คลิกขวาที่แถบพาเนลด้านล่าง เลือก Add > Utility > Keyboard Indicator
3. จะเห็นตัวบอกภาษาขึ้นมาเป็น USA ให้คลิกขวาแล้วเลือก Open Keyboard Preference
4. จะมีหน้าต่างของการตั้งค่าคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา เลือกแถบที่สาม Layouts แล้วเลือกภาษาไทยจากช่องทางขวามือ Thai (Kedmanee) กดปุ่ม Add เพื่อเพิ่มไปในช่องทางซ้าย
5. เลือกแถบที่สี่ Layout Options ช่องขวามือ หมวด Group Shift/Lock Behavior เพิ่ม Alt+Shift changes group
6. หมวด Use keyboard LED to show alternative group เพิ่ม Scroll Lock เข้าไป
เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยครับ สามารถเปลี่ยนภาษาด้วยปุ่ม Alt+Shift ซ้ายมือ และไฟที่ปุ่ม Scroll Lock จะบอกว่าเป็นภาษาไทยอยู่ ถ้าใครต้องการปุ่ม ~ นั้นก็ไม่มีให้ใช้ครับ เพราะไม่ใช่ปุ่มสลับภาษามาตรฐาน (มีประเทศไทยใช้อยู่ประเทศเดียว) ดังนั้นเราควรฝึกใช้ปุ่ม Alt+Shift ให้คล่องตั้งแต่ตอนนี้ เพราะวินโดว์สตัวต่อไปคือ Longhorn อาจจะไม่มี ~ ให้ใช้ก็เป็นได้ครับ
ถึงจะใช้ภาษาไทยได้ทันทีโดยไม่ต้องลงอะไรเพิ่ม แต่ฟอนต์ไทยที่มากับ Fedora Core 2 นั้นไม่สวยและสระเลื่อน เราจึงต้องไปดาวน์โหลดฟอนต์ภาษาไทยเพิ่มจากไซต์ของลินิกซ์ทะเลครับ ที่ ftp.opentle.org เข้าไปให้ถึง linux-tle 5.5 และ RPMS ดาวน์โหลดไฟล์ที่ชื่อ thai-ui-ttf.rpm และ thai-xfont.rpm มา แล้วดับเบิลคลิกเพื่อติดตั้ง ก็จะได้ภาษาไทยสวยงามใน Fedora Core 2


ผมเองไม่ได้ double clik แต่ใช้ คำสั่ง
rpm -ivh thai-ui-ttf*****.rpm
rpm -ivh thaixfont****.rpm แทน
พอเสร็จแล้ว reboot ระบบขึ้นมา ลองเปิด xmms ฟังเพลงประวัติหลวงปู่มัน พบว่าใช้ภาษาไทยได้แล้ว แต่ต้องเข้าไปแก้ โดย clikc ขวาที่ตัว xmms
แล้วเลือก Options\Preferences
แล้ว click ที่ Fonts tab
เลือก thaismall font เพื่อให้สามารถแสดงภาษาไทยได้
ปรากฏว่าใช้งานได้ดี

แต่ใน console (Terminal) นั้นแสดงเป็นภาษาไทยได้แล้วแต่ยังตัดคำให้สระอยู่ตรงตำแหน่งไม่ได้ แต่ก็พออ่านรู้เรื่องแล้ว


ความอยากทำให้เราก้าวไปข้างหน้า เช่นกันกับความกลัว แต่บ่อยครั้งที่ความโง่และความมั่วทำให้เราพบสิ่งใหม่ ๆ

Turn on Telnet on Fedora core 2 & MP3 on Fedora

ต้องการเปิด telnet service นั่งงมอยู่ตั้งนาน config และ start ยังไงก็ใช้ไม่ได้ แล้วก็ไปอ่านเจอในเน็ตว่า ปกติแล้ว Fedora core 2 นี้เขาจะไม่ลง Package ของ telnet server มาให้เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย ความไม่รู้เพียงเล็กน้อยนี่ทำให้เราโง่อย่างไม่น่าเชื่อ เสียเวลาอยู่เป็นชั่วโมง

ก็เลยเริ่มต้นใหม่ด้วยการลง telnet server แล้วก็ turn on มันซะก็ใช้ได้ ตามขั้นตอนดังนี้
ใส่แผ่น CD Fedora core 2 แผ่นที่ 3 เข้าไป (ถ้าใครใช้ core อื่นหรือ version อื่นก็ของใครของมันนะครับ) แล้วใช้คำสั่ง
su (เพื่อเป็น root ก่อน แล้วก็ใส่ user name แล้วก็ password)
cd /mnt/cdrom/Fedora/RPMS (เข้าไปที่ Directory ที่เก็บ Package)
rpm -ivh telnet-server-0.17-28.i386.rpm (ใช้คำสั่งเพื่อ install package version ก็ของใครของมันนะครับ)
พอลงเสร็จ เข้าไปที่
cd /etc/xinetd.d
vi telnet (ใช้ vi เข้าไปแก้ config ของ telnet ถ้าใครใช้ vi ไม่เป็นก็ต้องหัดใช้ก่อน หรือไม่ก็ใช้ text editor ตัวอื่นแทนก็ได้)
แก้ disable = yes เป็น
disable = no เสร็จแล้ว save
แล้วก็

/sbin/service xinetd restart (เพื่อ restart xinetd service)
เป็นอันเรียบร้อย

ถ้าอยากดูว่า service มัน run หรือเปล่า ให้ใช้คำสั่ง
/sbin/chkconfig --list
แล้วดูว่า telnet on อยู่หรือเปล่า
ถ้าอยากดูว่า chkconfig ใช้งานอย่างไรก็ใช้คำสั่ง
man chkconfig

/-------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อวันก่อนพยายามจะแปลง ไฟล์ MP3 ไปเป็น OGG อันนี้ก็ด้วยความโง่อีกเหมือนกัน โง่ที่ไม่ไปอ่านให้ดีว่า มันมี Package เพิ่มเติมที่ต้องมาลงเอาเองเพื่อให้ xmms สามารถเล่น MP3 ได้ ทาง Fedora ไม่สามารถลงมาให้ได้เพราะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ แต่เราสามารถติดตั้งเอาเองได้ไม่มีปัญหาอะไร
เข้าไปที่ http://freshrpms.net/packages
แล้วเลือก version ของตนเอง ในที่นี้ click
Fedora Linux 2 (Tettnang) add-on packages
แล้ว click
xmms
แล้วเลือก xmms-mp3-***********.rpm
แล้วก็ install package ที่ download ไป โดยเข้าไปที่ direcotory ที่ download ไว้แล้วใช้คำสั่ง
rpm -ivh xmms-mp3-**********.rpm

แค่นี้ก็เป็นอันใช้ได้


ความโง่ไม่เคยปรานีใคร แต่บางครั้งมันก็ทำให้เราไปได้ความรู้อื่น ๆ

Monday, June 27, 2005

Fedora & MP3 to OGG Convert

ลองใช้ Linux TLE มาหลายวัน ติดนั่นติดนี่หลาย ๆ อย่าง ทำอะไรก็ติด ๆ ขัด ๆ เพราะว่าเรายังใช้ไม่เป็น อย่างเช่น เอา HDD มาต่อเพิ่มเข้าไปทีหลัง และมันโดน Format เป็น NTFS ไว้ มันมีแต่ Root เท่านั้นที่เห็นและก็สามารถอ่านได้เพียงอย่างเดียวด้วย หาวิธีแก้อยู่หลายวันจนหมดแรง จะฟัง MP3 ก็ลำบากเพราะ โปรแกรม xmms ไม่สามารถ Add File MP3 ให้ (อ่านตอนหลังจะรู้ว่าทำไม) นั่งงงอยู่ตั้งหลายวันนึกว่ามันเป็น Bug ของโปรแกรม Setup Samba ก็ไม่ยอมทำงาน ฯลฯ มึนอยู่หลายวันก็เลยตัดสินใจจะลงใหม่ ตอนแรกคิดว่าจะลง Redhat 9 แต่ขี้เกียจ download มาใหม่ ไปขอเพื่อน เขาก็มีแต่ Fedora ดู ๆ แล้วมันเป็นภาคต่อของ Redhat 9 เป็นส่วนที่พัฒนาต่อมาจาก Redhat 9 เพราะ Redhat เขาแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเริ่มจำหน่าย (Red Hat Enterprise Linux) และขาย Support อีกส่วนหนึ่งยังคงเป็น Opensource เต็มตัวนั่นก็คือ Fedora

ลง Fedora core 2 รอบแรกไม่ได้เลือก checkbox ที่ hdc ตอน setup ปรากฏว่า HDD ตัวที่สองก็ไม่เห็นเวลาใช้งาน (แบบว่าโง่นึกว่ามันจะเห็นทีหลัง) จะไป config เอาใหม่ก็ทำไม่เป็น ก็เลยตัดสินใจลงใหม่คราวนี้ ลบ Partition ใหม่หมด Set ให้เป็น ext3 ทั้งหมด ผลปรากฏว่าใช้ได้หมดปัญหาเรื่อง HDD แล้ว เฮ้อ.........กว่าจะได้

พอลงเสร็จก็เลยจะลองฟัง MP3 ดูเปิด xmms ขึ้นมาพอจะ Add ไฟล์ MP3 เข้าไปมันฟ้องว่า ไม่สามารถโหลด MP3 ได้ เพราะทาง Fedora ได้ถอด module ของ MP3 ออก เคยทราบมาว่าใครจะผลิต Software หรือ Hardware ที่ใช้เล่น MP3 จะต้องจ่ายเงินให้ไอ้คนที่คิด Technology นี้ 1 เครื่องต่อ $1, 1 Software ต่อ $1 สำหรับของที่เขาทำขาย ไม่ว่าจะเป็น Software หรือ Hardware คงไม่มีปัญหาเพราะเพิ่มราคาแค่ $1 ก็ได้แล้ว แต่สำหรับ Opensource บาทเดียวก็ไม่ได้เพราะเขียนเพื่อแจกฟรีอยู่แล้ว ไฟล์ที่ฟังได้จะต้องเป็น ogg เพราะว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในการ Encode นั้นก็เป็น Opensource ไม่เหมือนกับ MP3 เพราะมีเจ้าของไปจดสิทธิบัตรไว้แล้ว ตอนแรกเขาให้ใช้ฟรี พอคนใช้เยอะ ๆ เขาก็เริ่มเก็บตังแล้ว ข้อมูลนี้เคยอ่านเจอที่ไหนจำไม่ได้แล้ว ถูกหรือผิดก็ไม่รู้ ขี้เกียจหาอ้างอิงมา เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ก็ไปหาเอาเอง แต่สรุปก็คือมันใช้ไม่ได้ ตอนที่ใช้ OpenTLE อยู่มันก็ใช้ไม่ได้แต่มันไม่ฟ้องให้รู้แบบนี้ทำให้งงนึกว่ามันเป็น Bug ของโปรแกรม ทางทีมงาน OpenTLE น่าจะทำ Message Box แจ้งให้ทราบบ้าง ทำให้หลงทางไปตั้งนาน

เพิ่มเติมวันที่ 9-August-2005
จริง ๆ แล้วเขาก็มีบอกไว้แต่พึ่งไปเจอก็เลยเอา link มาลงไว้อ้างอิง
ftp://ftp.nectec.or.th/pub/linux-distributions/Linux_TLE/waghor/i386/RELEASE-NOTES.html

ปัญหาต่อมาก็คือจะแปลงไฟล์ MP3 ที่มีอยู่ไปเป็น OGG ได้ยังไง ก็ลอง Search ดูได้ FreeRip จาก http://www.mgshareware.com/frmmain.shtml มา เป็น freeware ของ Windows ก็เลยลอง Convert ไฟล์เพลงประวัติหลวงปู่มั่น ของเพลิน พรหมแดน ไปสองเพลง ใช้เวลาหลายนาทีเหมือนกัน แล้วก็เอาไปฟังใน xmms ในเครื่องที่ลง Fedora ไว้ ก็ปรากฏว่าเล่นได้ดีเสียงก็ดีใช้ได้ ตอนลองนี้ได้ไฟล์ขนาดใหญ่เท่า ๆ กัน (จริง ๆ แล้ว ogg น่าจะเล็กกว่า)

ปัญหายังไม่จบเพราะต้องการ Convert จาก MP3 ไปเป็น OGG ใน Fedora Linux ก็หาต่อมั่วไปมั่วมาอยู่นานเหมือนกันกว่าจะ convert ได้สำเร็จ (ยากแต่ก็มันดี) ตามขั้นตอนดังนี้
ติดตั้ง oggasm
- ไปที่ http://www.gnuware.com/icecast/sect_07_04.html ไป download ไฟล์ ที่ http://oggasm.sourceforge.net/ มา โดยคลิกที่ tarball พอ Download เสร็จ ก็ install แต่ก็ยังใช้ไม่ได้เพราะต้องใช้อย่างอื่นด้วย
- ไป download mpg321 จาก sourceforg ที่ http://sourceforge.net/project/showfiles.php?group_id=36274 ที่ Download mpg321-0.2.10-1.i386.rpm แต่มันไม่ให้ลงต้องลงสองตัวหลังก่อน คือ
- libid3tag ที่ http://rpmfind.net/linux/RPM/PLD/dists/ra/PLD/i686/PLD/RPMS/mpg321-0.2.10-2.i686.html
แล้วไป click เพื่อ download สองไฟล์นี้
libid3tag.so.0 ==> http://rpmfind.net/linux/rpm2html/search.php?query=libid3tag.so.0
libmad.so.0 ==> http://rpmfind.net/linux/rpm2html/search.php?query=libmad.so.0

แล้วเลือกเอา package ที่ตรงกับเวอร์ชั่นของตัวเอง โดยผมเลือกที่ Fedora core 2 พอลงสองตัวนี้เสร็จ แล้วก็ลง mpg321 ก็ใช้งานได้แล้ว
กว่าจะได้ เหนื่อยแต่มันดีเหมือนกัน

มีอีกอันหนึ่งที่ลงไปแต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า เพราะตอนทำ ทำมั่ว ๆ ก็เลยไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันไหม นั่นก็คือ
libao-0.8.3-2.i386.rpm ที่ http://www.xiph.org/ogg/vorbis/download/

เข้าไปเจอ MAD: MPEG Audio Encoder http://www.underbit.com/products/mad/ ซึ่งมีโปรแกรมหลาย ๆ ตัวที่ใช้ engine ตัวนี้อยู่ และเขาก็บอกว่ามีอะไรบ้างที่ใช้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้โปรแกรมเกี่ยวกับ Audio Encoder ให้เข้าไปดูได้ที่นี่ จะมีประโยชน์มาก

หลังจากลงเสร็จทดลอง convert เสียงเทศน์ ท่านพระอาจารย์ปราโมทย์ แผ่นที่ ๖ ที่ท่านสอนเรื่องการดูจิต แผ่นหนึ่ง ใช้เวลา ๒-๓ ชั่วโมงเหมือนกันแฮะ พอลองเอามาฟังดูปรากฏว่า speed เสียงจะเร็วเป็นสองเท่า ฟังไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

อุตส่าห์ลงได้สำเร็จดันใช้ไม่ได้อีกวันนี้พอแค่นี้ก่อนเหนื่อยแล้ว ^_^!

Friday, June 24, 2005

ADSL 512/256

เมื่อวานไปขอ ADSL 512/256 ของ TT&T ที่ The Mall โคราช ได้ Modem มาฟรีแต่ต้องเซ็นสัญญา 1 ปี วันนี้ก็เริ่มใช้งานได้ ดำเนินการเพียงวันเดียวก็ใช้ได้อย่างนี้ถือว่าดีมาก และ Speed ขงอ ADSL ก็ถือว่าทำงานได้เร็วเป็นที่น่าประทับใจมาก ดีกว่าใช้ Modem อันเดิมหลายเท่า Download ไฟล์ใหญ่ ๆ สิบกว่าเม็กกะไบต์ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จ ถ้าคนไทยทั่วประเทศได้ใช้ Net คุณภาพอย่างนี้ ทุก ๆ พื่นที่ก็คงดี ตอนนี้มีแต่เมืองใหญ่ ๆ เท่านั้นจึงจะได้ใช้ นี่ยังโชคดีที่ โคราชมีให้ใช้งาน ราคาก็แพงไปหน่อย 790 ต่อเดือน ถ้าถูกกว่านี้ซักครึ่งหนึ่งจะ Perfect มาก

Monday, June 20, 2005

Fierfox Thai Version

วันนี้เข้าลอง Search Firefox Thai Version อยู่ก็เลยไปเจอเว็บดี ๆ เลยถือโอกาส Create Blog สำหรับบันทึกการพัฒนาโปรแกรมไว้อ้างอิง
--> Hui's Blog เจ๋งจริง ๆ