ช่วงนี้หลายคนพูดคำว่าพอเพียง ตั้งแต่รัฐบาลลงมาจนถึงชาวบ้านทั่ว ๆ ไป แต่มีสักคนใหมทีช่วยอธิบายคำว่าพอเพียงแบบชัด ๆ หน่อยว่ามันคืออะไร โดนเฉพาะคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง mk ก็เคยบอกว่าไม่เข้าใจ ผมก็เป็นคนหนึ่งดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ แต่วันนี้ผมมีคำตอบในมุมของผม มันถูกในมุมของผม เพราะตรรกะในสมองผมมันยอมรับคำอธิบายนี้ สำหรับคนอื่น ๆ ก็ตัวใครตัวมัน ลองอ่านกันดู
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่ามาผมกลับไปเยี่ยมพ่อที่บ้าน ก็เลยได้มีีโอกาสได้นั่งคุยกับพ่อหลายเรื่อง ตอนสุดท้ายพ่อพูดถึงเรื่องความสบาย ท่านบอกว่าการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ต้องทำให้สบาย คำว่าสบายในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ให้ขี้เกียจแล้วกิน ๆ นอน ๆ ทำเล่น ๆ ไปวัน ๆ แต่ท่านหมายถึงทำแล้วมันไม่บีบตัวเองมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นพนักงานบริษัทมีเงินเดือน 20,000 บาท เราต้องการจะซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อโทรศัพท์ ซื้อคอมพิวเตอร์ ก็ซื้อมันซะทุกอย่าง บ้านหลังละ 2,000,000 บาท รถวีโก้คันละ 800,000 บาท โทรศัพท์เครื่องละ 20,000 บาท คอมพิวเตอร์เครื่องละ 80,000 บาท ทุกอย่างต้องผ่อนหมด เพราะไม่มีปัญญาซื้อเงินสด แต่อยากได้ แบบนี้มันบริหารลำบาก เราจะรู้สึกได้ว่ามันไม่สบาย มันบีบรัดและทำให้เราอึดอัดเกินไป คนที่จะตอบคำถามได้ว่ามันสบายหรือเปล่า ก็คือเรานี่แหละ
เราบอกได้แน่นอนว่าปัจจุบันเราโดนบีบรัดมากเกินไปหรือเปล่า เราต้องโดนบีบคั้นในสิ่งที่เราทำอยู่หรือเปล่า พ่อบอกว่าถ้าเราเริ่มรู้สึกไม่สบายให้พึงระลึกไว้ว่าเราเริ่มทำสิ่งที่เกินกำลังของตัวเองเกินไป ซึ่งถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ จนเกินกำลังมาก ๆ จะเป็นผลเสีย สุดท้ายมันบีบเราจนตายก็มี อย่างในกรณีข้างบน เราอาจจะเลือกซื้อรถมือสองอย่าง Toyota D4D รุ่นแรก ราคาไม่เกิน 300,000 ดูแลรักษามันให้ดี ๆ บ้านก็เช่าไปก่อน โทรศัพท์ซื้อเครื่องละ 1,500 บาท เงินสดก็พอ ส่วนคอมพิวเตอร์ก็เอาแค่พอมีกำลังซักเครื่องละ 30,000 - 40,000 บาท ผ่อนซัก 6 เดือน พอผ่อนรถ ผ่อนคอมพิวเตอร์หมดแล้ว ซึ่งไม่น่าจะใช้เวลานานเพราะราคาไม่แพง ค่อยเริ่มขยับขยายดูบ้านต่อไป ตัวอย่างนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานของแต่ละคนด้วย เช่นอาชีพโปรแกรมเมอร์อาจจะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องละ 80,000 บาท แต่ชะลอการซื้อรถออกไปก่อน ถ้าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นมันทำให้เราทำงานได้สบายขึ้น ดีขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น
การทำธุรกิจก็เหมือนกันถ้าเราทำแล้วมันสบาย เราก็ทำไปตามกำลัง ทำอะไรก็ได้ทำไปเถอะ ตามกำลังที่เรามี ถ้าเรามีสิ่งที่จะทำแต่กำลังไม่มี ก็ไปหากำลังมาเพิ่ม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราขาดกำลังด้านไหน กำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังความรู้ ฯลฯ ถ้าหาไม่ได้แล้วไปทำเราจะรู้สึกได้ว่ามันยาก มันไม่สบาย พ่อให้ผมดูที่ความรู้สึกสบายเป็นหลักผมนั่งฟังพ่อไปนึกถึงคำว่า พอเพียง ขึ้นมาอย่างชัดเจน คำว่าพอเพียงที่ในหลวงท่านนำมาสั่งสอนเราให้ดำเนินชีวิตตาม ต่างคนต่างตีความไปตามตรรกะของตัวเอง ถูกบ้าง ผิดบ้าง เฉียด ๆ บ้าง ตามภูมิปัญญาที่แต่ละคนมี คนส่วนหนึ่งเข้าใจว่า พอเพียงคือกลับไปทำไร่ทำนา หาเลี้ยงตัวได้ ซึ่งถูกในมุมของชาวบ้านหรือเกษตรกร แต่จะให้วิศวกรจบจากมหาวิทยาลัยไปทำแบบนั้นมันก็ไม่เข้าท่า หลายคนก็รู้ว่าแบบนี้มันไม่ถูก แต่ก็หาคำที่อธิบายชัด ๆ ไม่ได้ว่าตรงไหนคือ พอเพียง
เครือซีเมนต์ไทยมีธุรกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ เขาบอกว่าเขายึดหลักพอเพียง โดยตัดธุรกิจที่ตัวเองไม่ถนัดออกไป หลังจากเจอพิษเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้ธุรกิจฟื้นขึ้นมาได้ ผมว่ามันก็โยงกลับมาที่ความสบายอีกนี่แหละ เพราะถ้าเราทำในสิ่งที่เราถนัด เราก็จะสบาย ในทางตรงกันข้ามถ้าเราทำในสิ่งที่เราไม่ถนัด เราจะเริ่มอึดอัดทันที แต่ก็ไม่ใช่ว่าอะไรที่เราไม่ถนัดเราก็จะไม่ทำเลยตลอดชีวิต ถ้าวันนี้เราไม่ถนัดแต่เราเริ่มเรียนรู้และปรับตัว สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ตามกำลังแบบสบาย ไม่เรียนรู้แบบบีบตัวเองเกินไป วันหนึ่งข้างหน้าเราก็พร้อมที่จะทำสิ่งที่เราเคยไม่ถนัด เพราะตอนนั้นเราจะถนัดแล้ว ณ ตอนนั้นเราก็จะทำได้แบบสบาย
อีกตัวอย่าง 7-Eleven ขยายตัวในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมาจาก 2,500 สาขา เป็น 5,000 กว่าสาขา และคาดว่าจะขยายถึง 10,000 สาขาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ถือว่าพอเพียงหรือเปล่า ตัวเลขพวกนี้มันไม่ได้เป็นตัวที่บอกว่าเขาทะเยอทะยานเร่งขยายสาขาเกินไปเป็นการไม่พอเพียง แต่มันอยู่ที่กำลังของเขาว่าเขามีกำลังที่จะทำเรื่องนี้อย่างสบายหรือเปล่า ถ้าเขามีกำลังพอและขยายสาขาปีละ 3,000 สาขาได้ โดยไม่บีบตัวเองและคนในองค์กรมากเกินไป แบบนี้ผมก็ถือว่าพอเพียงเพราะเขาทำแบบสบาย ๆ แต่ถ้าเขาไม่มีกำลังที่จะขยายสาขา อย่าว่าแต่ 3,000 สาขาเลย แค่ 500 สาขาก็ถือว่าไม่พอเพียงแล้ว
เพราะฉะนั้นให้จำไว้ ถ้าเราพอเพียง เราจะรู้สึก สบาย ไม่ค่อยทุกข์ แต่ถ้าเรา ไม่พอเพียง เราจะรู้สึกไม่สบาย อึดอัด แล้วก็ทุกข์ ยกเว้นคุณจะเป็นมือเซียนในการภาวนา แยกความทุกข์ ออกจากจิต ได้แล้ว กรณีแบบนี้คุณจะทำอะไรก็ได้เพราะคุณไม่ทุกข์แล้ว ส่วนคนทั่ว ๆ ไปต้องจำให้ขึ้นใจคือ ต้องทำให้ พอเพียง ต้องทำให้ สบาย