Sunday, October 09, 2005

Google Earth เปิดโลกการเรียนรู้

ผมคงไม่มาพูดแนะนำ Google Earth หรอกครับเพราะ มันเป็น Talk of the World ไปแล้ว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมคงไม่ใช่แค่หลังคาบ้านของตัวเอง, บริเวณตึก World Trade Center (ตอนนี้รู้สึกเขาจะเรียกว่า Ground Zero ไปแล้ว), สนามบิน JFK, LA, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ออสเตรเรีย ฯลฯ

และแน่นอนเมืองไทยผมดูเกือบทุกซอกทุกมุมทำให้เข้าใจภูมิศาสตร์ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง ไม่เหมือนตอนที่เรียนสมัยมัธยม มันนึกภาพไม่ออก ถ้าสามารถบรรจุ Google Earth ลงไปในวิชา โลกของเรา, ประเทศของเรา หรือวิชาภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ผมว่าสุดยอดเลย



รูปแรกเป็นรูปภูกระดึงจะเห็นว่ามันเป็นรูปหัวใจเหมือนที่เขาว่าจริง ๆ หลาย ๆ คนบอกผมว่าได้พบคนรักที่ภูกระดึง แต่บางคนก็บอกว่าขึ้นไปเลิกกันก็บนภูกระดึงนี่แหละ ไม่รู้มันเกี่ยวกับรูปหัวใจนี้หรือเปล่า


แต่ที่น่าสนใจก็คือเมื่อผมกดปุ่ม Tilt Down ลงปรากฏว่ามันเห็นส่วนสูงต่ำของแผ่นดินด้วย นั่นหมายความว่า Google มันเก็บความสูงไว้ด้วยหรือนี่ จะเห็นว่ารอบ ๆ ภูกระดึงนั้นเป็นหน้าผาทั้งหมด แต่ส่วนบนจะแบนเป็นพื้นราบ ทำให้ภูกระดึงเป็นภูเขาที่ไม่มียอด เหมือนพื้นราบมันโดนยกขึ้นไปเฉย ๆ งั้นแหละ (อันนี้มีเหตุผลอธิบาย จำได้ตั้งแต่ตอนเรียน ม. ๓ อาจารย์ท่านเคยอธิบายเหตุผลไว้แต่ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวยาว)


ยิ่งพอปรับ Tilt Down จดสุดจะเห็นว่าภูกระดึงนั้น มันสูงขึ้นไปแล้วจู่ ๆ มันก็เรียบ อยู่ด้านบน ถ้าใครเคยขึ้นภูกระดึง หลังจากผ่าน ซำแฮก และซำต่าง ๆ ไปแล้ว พอขึ้นไปถึงยอด จะตะลึง ว่าเราปีนเขาขึ้นมาเกือบทั้งวัน ขึ้นมาเรื่อย ๆ พอขึ้นมา จู่ ๆ ภูเขาก็หายไปกลายเป็นพื้นราบเฉยเลย ตรงที่ขึ้นไปถึงนั้นเขาเรียกว่า หลังแป และพอมองลงมาข้างล่าง โอ้โห.... สุดบรรยาย วิวข้างล่างสวยมาก ยิ่งขึ้นไปปลายฝน ต้นหนาว จะเห็นละอองเมฆ ลอยอยู่ต่ำกว่าเท้าเราใกล้แค่เอื้อม แล้วลมก็พัดเมฆหมอกมากระทบหน้าผาแล้วฟุ้งมากระทบหน้าเรา ไม่อยากบรรยาย สุดยอดจริง ๆ ปีนขึ้นมาทั้งวัน หายเหนื่อยเลย


บ้านเพื่อนผมอยู่อำเภอภูเวียง ผมพึ่งรู้ว่าที่จริงแล้ว อำเภอนี้มันตั้งอยู่กลางภูเขา ซึ่งร้อมรอบอำเภอ มีทางเข้าออกอำเภอได้ทางเดียว ซึ่งเป็นทางเดียวกับทางที่น้ำไหลออกจากภูเวียง นอกนั้นเข้าออกไม่ได้เพราะภูเขาล้อมไว้หมด แต่ยังมีอีกอันที่สงสัยคือ ทำไมไดโนเสาร์มันถึงมาอยู่ข้างในนี้ด้วย และจากรูปนี้ก็ทำให้เห็จความฉลาดของคนสมัยก่อน เพราะตอนนั้นเขาไม่มีเครื่องบิน หรือดาวเทียมดู เขาก็ยังรู้ว่าภูเขามันเป็นวงล้อมอยู่ จึงตั้งชื่อว่า ภูเวียง

แต่ผมก็มีอีกความคิดหนึ่งก็คือถ้าเป็นไปได้ ผมจะอพยพคนออกจากข้างในให้หมด เพราะอันตรายมากหากฝนตกหนักติดต่อกัน เพราะจะทำให้น้ำระบายจากข้างในไม่ทัน เดี่ยวก็เดือดร้อนกันใหญ่ และพออพยพคนออกแล้วผมจะสร้างเขื่อนเล็ก ๆ ปิดทางน้ำออก ก็จะได้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ไว้สำหรับภาคอีสานไว้ใช้เวลาหน้าแล้งอีกเป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว และจะเป็นแหล่งน้ำระดับที่สูง ทำให้สามารถจ่ายไปได้ไกล ๆ อีกด้วย


ส่วนอันนี้เขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้เข้าใจว่าทำไมเขามาสร้างเขื่อนตรงนี้ เพราะมันมีแนวภูเขาที่เป็นเส้น ๆ กั้นน้ำไว้ให้นี้เอง ไอ้เส้นภูเขาเล็ก ๆ นี้ผมลงตามไปดูมันข้ามน้ำโขงไปประเทศลาว และลงมาข้างล่าง ผ่านภูเขียว และมาจรดที่เขาใหญ่ด้านล่างนี้เอง ไอ้เส้นนี้มันแปลกมาก


ส่วนอันนี้เป็นบริเวณ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ของ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ซึ่งใช้เก็บพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระอรหันตสาวก ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระสิวลี และองค์อื่น ๆ อีกเพียบ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ. หนองพอก จ. ร้อยเอ็ด ใช้เงินสร้างไปหลายพันล้านบาทแล้ว ข้างในสวยมาก นึกว่าขึ้นไปบนสวรรค์ ใครไม่เคยไป ลองหาโอกาสไปซักครั้งในชีวิต สาเหตุที่มาสร้างตรงนี้เพราะสมัยก่อน หลวงปู่ศรี ท่านจาริก มาธุดงค์อยู่แถวนี้ ซึ่งเป็นป่าเป็นเขา จนสุดท้ายได้สร้างวัดขึ้นที่นี่ และสร้างรั้วร้อมภูเขาทั้งลูก ดังที่เห็น สุดยอดจริง ๆ ไม่งั้นป่านนี้ชาวบ้านคงรุกล้ำถางเข้าไปจนป่าไม้ไม่เหลือแล้วมั้ง ทำให้พระรุ่นลูก รุ่นหลาน ยังมีป่าพอเหลือให้หลีกเร้นจากสังคม เข้าไปภาวนาอยู่ในป่าหาความสงบ หาทางพ้นทุกข์ ตามรอยพระบรมศาสดา ซึ่งป่าแถบนี้ยังสมบูรณ์อยู่มาก


ส่วนภูเขาลูกตรงกันข้ามชื่อว่า ภูจ้อก้อ ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ท่านมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่เป็นเวลานานจนท่านมรณภาพ สุดท้ายหลังเผาศพท่าน พบว่ากระดูกของท่านก็กลายเป็นธาตุ เหมือนกันกับพระอรหันต์ทั้งหลาย นี่เป็นความอัศจรรย์ของดินแดนแถบนี้


ส่วนรูปสุดท้ายนี้จะเห็นว่าป่าไม้เมืองไทยนั้นเหลือน้อยจริง ๆ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่เห็นยังเขียว ๆ อยู่ ก็มีเพียง เขาใหญ่ เขาเขียว ภูเขียว แนวชายแดนภาคตะวันตก ภาคเหนือตามภูเขา และเขตแถว ๆ ภูพานอีกนิดหน่อย เท่านั้นเอง

และถ้าดูรูปนี้จะเห็นว่าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเดินธุดงค์สมบุกสมบันจริง ๆ คือผมเข้าใจว่าทั้งหมดที่เห็นในรูปนี้ท่านเดินด้วยเท้าเปล่ามาหมดแล้ว ซึ่งสมัยเมื่อประมาณร้อยปีที่แล้วส่วนใหญ่ยังเป็นป่าเกือบทั้งหมด ท่านเดินจากอุบล ข้ามไปฝั่งลาวขึ้นไปทางเหนือ เข้าไปเชียงใหม่ ข้ามไปพม่า เข้ามาอุดรธานี หนองคาย สกลนคร แล้วลงมาอุบล แล้วเดินเข้ากรุงเทพฯ แล้วก็ไปเขาใหญ่ นครนายก ขึ้นไปเชียงใหม่ ฯลฯ แค่เรื่องเดินธุดงค์ ก็ยังขนาดนี้แล้ว ยิ่งเรื่องอื่น ๆ ยิ่งน่านับถือท่านมาก ๆ

จะเห็น่า Google Earth นั้นมีประโยชน์มาก ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง ตั้งแต่ความรู้ทั่วไป โลกของเรา ประเทศของเรา แม้กระทั่งวางแผนว่าจะไปนอนวัดป่าภาวนาซักอาทิตย์ ก็ยังสามารถตรวจสอบได้ล่วงหน้าว่า ป่าแค่ไหน มันป่าสมที่ใจอยากไปหรือเปล่า

No comments: